ตัวกรองผลการค้นหา
ไต้
หมายถึง1.)ของใช้สำหรับจุดไฟให้สว่าง เรียก ไต้ กะบองไต้ ก็ว่า. 2.)จุด เช่น จุดเทียน เรียก ไต้เทียน จุดไต้เรียก จุดกะบอง อย่างว่า ฮุ่งค่ำเช้าตามไต้เฮื่อเฮือง (สังข์).
กะบอง
หมายถึงกะไต้ ชื่อเครื่องตามไฟชนิดหนึ่ง เรียก กะบอง กะไต้ ไต้ ขี้ไต้ ก็ว่า
สนแส้ว
หมายถึงระคน สับสน ปนเป อย่างว่า สาวสนแส้วยิงสะออนอกอ่อน (กาไก).
ขี้ยาง
หมายถึงน้ำมันยาง น้ำมันที่เกิดจากต้นยางหรือต้นไม้อื่น นิยมเรียก ขี้ยาง ขี้ยางนี้เอามาผสมกันขอนดอกทำเป็นกะไต้หรือกระบอง สำหรับจุดไฟให้เกิดแสงสว่าง.
ลอยเฮือไฟ
หมายถึงเรือที่ทำด้วยไม้ไผ่หรือท่อนกล้วย ทำรูปคล้ายเรือ ภายในเรือมีข้าวต้ม ขนม ฝ้ายไนไหมหลอด จุดกะไต้แล้วปล่อยไปตามแม่น้ำในวันออกพรรษาของทุกปีเพื่อบูชารอยพระพุทธบาทในแม่น้ำนัมมานที เรือที่ทำนี้เรียก เฮือไฟ การปล่อยเรือเรียก ปล่อยเฮือไฟ ไหลเฮือไฟ ก็ว่า.
กกุสนธ์
หมายถึงพระนามพระพุทธเจ้าองค์แรกที่เกิดในภัทรกัปนี้ เรียก พระกกุสันธะ กุกกุสันธะก็เรียก ในภัทรกัปนี้มีพระพุทธเจ้ามาเกิด ๕ พระองค์ คือ พระกกุสันโธ พระโกนาคมโน พระกัสสโป พระโคตโม พระอริยเมตตรัยโย (ป. กกุสนธ).
อกุศลกรรม
หมายถึงความชั่วร้าย โทษ บาป (ป. อกุสลกมฺม).
กุศลกรรมบถ
หมายถึงทางที่เป็นบุญ ทางที่เป็นกุศลมี ๑๐ อย่างเรียก กุศลกรรมบถ คือ กายสุจริต ได้แก่ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม วจีสุจริต ได้แก่ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบไม่พูดเพ้อเจอ มโนสุจริต ได้แก่ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง.
กุสลกรรมบถ
หมายถึงทางที่เป็นบุญ ทางที่เป็นกุศล มีข้อความตรงกันกับกุศลกรรมบถทุกประการ.
อกุศลกรรมบถ
หมายถึงทางแห่งความชั่ว ทางบาป มี ๑๐ อย่าง คือ เกิดแต่กาย เรียก กายทุจริต ๓ ได้แก่ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม เกิดแต่วาจา เรียก วจีทุจริต ๔ ได้แก่พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ เกิดแต่ใจ เรียก มโนทุจริต ๓ ได้แก่โลภอยากได้ของคนอื่น ปองร้ายเขา เห็นผิดจากคลองธรรม เรียก อกุศลกรรมบถ (ป. ส.).
แม่เมือง
หมายถึงพระราชินี เรียก แม่เมือง เมื่อเจ้าเมืองไม่อยู่ แม่เมืองทำหน้าที่ปกครองเมืองแทนเจ้าเมือง อย่างว่า นัคเรศไว้วางนาถนางเมือง ทั้งปวงขุนค่อยเกลียวกลมหน้า กูก็สนเทเท้าทนทวงบ้าบ่ม จริงแล้ว จักบวชตั้งศีลสร้างสั่งสู (สังข์).