ค้นเจอ 10 รายการ

ซ็อกง็อก

หมายถึงอาการของคนนั่งแบบซึมเศร้า, นั่งคอตก อาการที่งูตัวเล็กๆ ชูคอขึ้นเรียก คอซ็อกง็อก

ฮ้องโห่

หมายถึงโห่ร้อง อย่างว่า จัดหมู่หน้ายอก่อนไหลหาญ ผายชะลือวอระนีเกี่ยวชูใสเข้า แมนหาญเข้าคุมคุมฮ้องโห่ เจ้ายี่เฆี่ยนหมู่ข้าฝูงกล้าดาดชน (ฮุ่ง).

ฮ้องฮ่ำ

หมายถึงร่ำร้อง อย่างว่า ฟังยินซุงพาทย์พร้อมปนปี่แถมแถ นางกะสิงประดับแกว่งแพนเฟือยฟ้อน เสียงฉันแก้วกินรีฮ้องฮ่ำ ประดับคาดฮ้อยเฮียงเส้นคาดคีง (สังข์) ฟังยินเค็งเค็งฟ้าเทิงหัวฮ้องฮ่ำ พุ้นเยอ แซวอั่นฝ้ายฝันชู้ฮุ่งจวน (ฮุ่ง).

กดราคา

หมายถึงตีราคา, กำหนดค่า เช่น เมื่อพระเวสสันดรจะสั่งให้สองกุมารแก่ชูชก ก็กำหนดราคาลูกทั้งสองไว้

ใหญ่

หมายถึงโต ไม่เล็ก โต เรียก ใหญ่ ลูกคนโต เรียก ลูกผู้ใหญ่ บ้านที่กว้างขวาง เรียก บ้านใหญ่ สิ่งของขนาดใหญ่ เรียก ใหญ่ อย่างว่า สองนายตั้งปานโตงเหล้าใหญ่ ชอบที่วอนพี่ผู้คีงค้อมค่อยเอา (ฮุ่ง) ยุ่งเหยิงมาก เรียก หยุ้งใหญ่ อย่างว่า ต้นไม้ใหญ่บ่มีผีสาวผู้ดีบ่มีชู้ธรณีบ่อกแตกสารือ ตาแฮกเปิดไก่ต้มดินชิแห้งไง่ผง (ผญา).

ให้เลี้ยง

หมายถึงการอุปถัมภ์บำรุงโดยไม่ปล่อยปละละทิ้ง เรียกว่า ให้เลี้ยง อย่างว่า ให้น้องเลี้ยงพี่ไว้ตางหมาหอนเห่า บาดชู้เก่ามาฮอดแล้วไลถิ้มบ่ว่าสัง (ผญา).

กรรม

หมายถึง1.)การ, การงาน, การกระทำ, กิจ แยกแยกกรรมออกเป็น ๓ คือ กายกรรมงานมือ วจีกรรมงานพูด มโนกรรม งานคิด อย่างว่า งานคึดงานเว้างานทำคู่อย่าง บูฮาณเฮียกเอิ้นโฮมเว้าว่ากรรม (บ.). 2.)บุญคือการทำความดี บาปคือการทำความชั่ว บุญบาปติดตามผู้ทำให้ได้รับความดีหรือชั่ว เรียก กรรม อย่างว่าบุญมีได้เป็นนายใช้เพิ่น บุญบ่ให้เขาชิใช้ตั้งแต่เฮา (ภาษิต) บุญมีแล้วแนวดีป้องใส่บุญบ่ให้แนวขี้ฮ้ายแล่นโฮม(ภาษิต). 3.)เคราะห์ คือสิ่งที่ไม่สมหวังเรียก กรรม เช่น ชูชกได้เมียสาว ถูกเมียบังคับให้ไปขอกัณหาชาลีมาเป็นทาส เมื่อพระเวสสันดรให้โอรสและธิดาแล้วแนะนำให้ชูชกไปเมืองปู่ เพื่อพระเจ้าปู่จะได้ไถ่ถอนหลาน แต่ชูชกไม่กล้าไปเกรงจะถูกเคราะห์กรรม (เวส-กลอน) 4.)ผลของความดีหรือชั่วที่ตนทำในอดีตตามให้ผลเรียก กรรม อย่างว่า ผู้สาวได้ผัวเถ้ากรรมลาวสร้างแต่เก่า ผู้บ่าวได้แม่ฮ้างกรรมสร้างตั้งแต่หลัง (ภาษิต). กรรมแบ่งบั่นปั่นป่อนมาพบ บารมีภายหลังจิ่งได้เวียนมาพ้อ (บ.). 5.)คนตายเรียก ถึงแก่กรรม อย่างว่า ชื่อว่ากรรมเถิงแล้วจำใจจำจาก บ่มีใผแก่ทื้นคืนได้โลกเฮา (บ.) ชื่อว่าความตายนี้แขวนคอทุกบาดย่าง ใผกะแขวนอ้อนต้อนเสมอด้ามดั่งเดียว (บ.).

ไง่

หมายถึงฟุ้ง, กระจาย, ปลิว ฝุ่นผงหรือละอองที่ปลิวไป เรียก ไง่ ไง่จนมองไม่เห็นเรียก ไง่ง้อง อย่างว่า เป็นไง่ง้องคือฟ้าเง่าฝน (กา) ต้นไม่ใหญ่บ่มีผี สาวผู้ดีบ่มีชู้บ่อกแตกสารือ ตาแฮกเปิดไก้ต้ม ดินชิแห้งไง่ผง (กลอน) คึดต่อคนตายนี้บ่มีทางชิเห็นไง่ คือดั่งไฟมอดแล้วใผชิ

กนิษฐภคินี

หมายถึงน้อง (ป.ส.) อย่างว่า บ่ได้สุขอยู่สร้างเสวยราชเป็นพระยา คนิงแพงศรีชู่วันมีเอื้อน กำสุดโอ้กนิษฐาเจ้าพี่กูเอย ปานนี้ยักษ์ฆ่าเจ้ากินแล้วฮู้ว่ายัง นั้นเด(สังข์).

ฮ้าง

หมายถึงทอดทิ้ง จากไป เมียที่ผัวทอดทิ้ง เรียก แม่ฮ้าง ผัวที่เมียทอดทิ้ง เรียก พ่อฮ้าง หนุ่มสาวที่รักกันแล้วทอดทิ้งกันไป เรียก ฮ้างชู้ บ้านที่คนทอดทิ้ง เรียก บ้านฮ้าง เรือนที่ไม่มีคนอยู่อาศัย เรียก เฮือนฮ้าง วัดที่ไม่มีพระสงฆ์อยู่ เรียก วัดฮ้าง อย่างว่า ญิงชายฮู้เฮียงกลการย่อยโชค ส่ำฮ้างฮามหม้ายหมู่สะเทิน (สังข์) คันหากมีผัวแล้วบ่กลัวใผอย่าฟ้าวว่า บาดห่าเป็นฮ้างหม้ายชิมาโอ้ใส่เขา (ผญา).

 ภาษาอีสาน จัดกลุ่มตามตัวอักษร ก-ฮ