คำราชาศัพท์ ที่ใช้กับ พระภิกษุสงฆ์
พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่คนไทยส่วนใหญ่นับถือในภาษาไทย จึงมีการกำหนดถ้อยคำไว้จำนวนหนึ่งสำหรับใช้กับภิกษุสามเณรโดยเฉพาะ
ทั้งนี้เพราะพระภิกษุอยู่ในฐานะที่เป็นผู้สืบพระพุทธศาสนา และเป็นผู้ทรงศีล สามารถเทศนาสั่งสอนประชาชนให้ประพฤติดีประพฤติชอบ
จึงควรใช้ภาษาด้วยถ้อยคำสุภาพและถูกต้องตามกาลเทศะเพื่อให้ผู้ฟังเกิดความเคารพนับถือ
ต่อจากตอนที่แล้ว เรื่อง มูลเหตุที่ทำให้เกิดมีคำราชาศัพท์ วันนี้เรามาดูคำราชาศัพท์เพิ่มตามหัวข้อดังนี้
- ตอนที่ 1 ศัพท์สำหรับพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์
- ตอนที่ 2 ศัพท์สำหรับพระภิกษุสงฆ์ (บทความนี้)
ตอนที่ 2 : คำราชาศัพท์สำหรับพระภิกษุสงฆ์
เราไปดูกลุ่มคำราชาศัพท์สำหรับพระภิกษุสงฆ์กันเลย
ศัพท์สำหรับพระภิกษุสงฆ์
แบ่งออกเป็นประเภทของคำได้ 3 ประเภทดังต่อไปนี้
1. คำนาม
คำนามที่ใช้คำหรับพระภิกษุ ส่วนมากใช้เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป เว้นเเต่คำบางคำที่กำหนดไว้เฉพาะ เช่น
- กาสาวพัสตร์ ผ้าย้อมฝาด คือ ผ้าเหลืองพระ
- กลด คือ ร่มขนาดใหญ่ มีด้ามยาว สำหรับพระธุดงค์โดยเฉพาะ
- จีวร คือ ผ้าสำหรับห่มของภิกษุสามเณรคู่กับสบง
- สังฆาฏิ คือ ผ้าคลุมกันหนาวสำหรับพระใช้ทาบบนจีวร ใช้พันพาดบ่าซ้าย
- ตาลปัตร คือ พัดใบตาล มีด้ามยาว สำหรับพระใช้ในพิธีกรรม
- ธรรมาสน์ คือ ที่สำหรับภิกษุสามเณรนั่งเเสดงธรรม
- บาตร คือ ภาชนะชนิดหนึ่ง สำหรับภิกษุสามเณรใช้รับอาหารบิณฑบาต
- บริขาร คือ เครื่องใช้สอยของพระภิกษุ มี ๘ อย่าง รวมเรียกว่า "อัฐบริขาร" ได้แก่ สบง จีวร สังฆาฏิ บาตร มีดโกนเข็ม ประคดเอว กระบอกกรองน้ำ
- ปัจจัย คือ เงินที่ถวายพระเพื่อเป็นค่าปัจจัยสี่
- ลิขิต คือ จดหมายของพระสงฆ์
- จังหัน คือ อาหารเช้า
- กุฏิ คือ เรือนหรือตึกสำหรับพระภิกษุสามเณรอยู่อาศัย
- เจดีย์ คือ สิ่งซึ่งก่อเป็นรูปคล้ายลอมฟางมียอดเเหลม บรรจุสิ่งที่นับถือ เช่น พระธาตุ
- หอไตร คือ หอสำหรับเก็บพระธรรม
- อุโบสถ คือ สถานที่สำหรับพระสงฆ์ประชุมกันทำสังฆกรรม เรียกสั้นๆ ว่า โบสถ์
2. คำสรรพนาม
- สมเด็จพระสังฆราช
คำขึ้นต้น กราบทูล..ทราบฝ่าพระบาท สรรพนามบุรุษที่ 1 เกล้ากระหม่อม สรรพนามบุรุษที่ 2 ใต้ฝ่าพระบาท คำลงท้าย ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด - สมเด็จพระราชาคณะ (เช่น สมเด็จพระวันรัต, พระพุทธโฆษาจารย์)
คำขึ้นต้น นมัสการ สรรพนามบุรุษที่ 1 กระผม,ดิฉัน สรรพนามบุรุษที่ 2 พระคุณเจ้า คำลงท้าย ขอนมัสการด้วยความเคารพอย่างยิ่ง - พระราชาคณะ (ขั้นพิเศษ, ธรรม, เทพ, ราช)
คำขึ้นต้น นมัสการ สรรพนามบุรุษที่ 1 กระผม, ดิฉัน สรรพนามบุรุษที่ 2 พระคุณท่าน คำลงท้าย ขอนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง - พระภิกษุทั่วไป
คำขึ้นต้น นมัสการ สรรพนามบุรุษที่ 1 กระผม, ดิฉัน สรรพนามบุรุษที่ 2 ท่าน, พระเดชพระคุณ คำลงท้าย ขอนมัสการด้วยความเคารพ
3. คำศัพท์อื่น ๆ ที่ใช้ในพุทธศาสนากับพระภิกษุ
- เจริญพระพุทธมนต์ ใช้ในการนิมนต์พระภิกษุเกี่ยวด้วยงานมงคล ถ้านิมนต์เกี่ยวด้วยงานศพ พึงกล่าวว่าสวดมนต์
- การนิมนต์พระ ตามความนิยม นิมนต์ 5 รูป 7 รูป หรือ 9 รูป เป็นเลขคี่เพราะถือว่ารวมพระพุทธด้วยก็เป็นจำนวนคู่ นิมนต์ไปงานมงคลสมรสนิยมนิมนต์พระ 8 รูปเป็นสิริมงคล แต่สำหรับพิธีหลวงทุกพิธี ทางราชการต้องนิมนต์ตั้งแต่ 10 รูปเป็นอย่างน้อย ถ้านิมนต์ไปงานศพ นิมนต์เพียง 4 รูป
- ใบปวารณา การถวายจตุปัจจัยแด่พระภิกษุสามเณร ต้องใช้ใบปวารณามิให้กล่าวถึงเงินโดยตรง ให้ใช้คำว่า ข้าพเจ้าขอถวายจตุปัจจัยแด่พระคุณท่านเป็นมูลค่าบาทสตางค์
- เบญจางคประดิษฐ์ การกราบพระพุทธรูป, พระภิกษุ, พระรัตนตรัยแบบคุกเข่าทั้งสองจดพื้น คว่ำฝ่ามือทั้งสองวางแผ่ราบจดพื้นให้ข้อศอกแนบลำตัว หน้าผากจดลงบนพื้น รวมเป็นองค์ 5 กล่าวคือ การกราบโดยให้อวัยวะทั้ง 5 ได้แก่เข้าทั้ง 2 มือทั้ง 2 และหน้าผากจดลงกับพื้น
- การกรวดน้ำ ควรหยดน้ำหลั่งเป็นสายเดียวอย่างสม่ำเสมอทีละน้อยไม่ขาดสาย ไม่ควรให้มีเสียงน้ำหยดหรือไหลดังเกินควร ให้เริ่มกรวดน้ำตอนคำอนุโมทนาว่า "ยถาวรีวหา" ผู้กรวดจึงตั้งจิตแผ่ส่วนกุศลไปยังบุพการี ผู้ที่ประสงค์จะแผ่กุศลไปให้ รวมถึงสรรพสัตว์ทั้งหลาย เมื่อพระสวดจบบนยถา จึงหยุดกรวดน้ำ นั่งประนมมือฟังพระอนุโมทนาต่อไปจนจบ
- รูป ลักษณะใช้เรียกกับพระภิกษุสามเณร เช่นพระรูปหนึ่ง สามเณร 3 รูป เป็นคำใช้แทนตัวผู้พูด สำหรับพระภิกษุสามเณรพูดกับคฤหัสถ์ เป็นสรรพนามบุรุษที่ 1
- องค์ ลักษณะนามใช้เรียกสิ่งที่เคารพบูชา เช่น พระพุทธรูป 1 องค์ บาทหลวง 1 องค์ เป็นลักษณนามใช้กับสมเด็จพระสังฆราชและสมเด็จพระราชาคณะว่ามีจำนวน "องค์" แทน "รูป" ใช้กับนักบวชในศาสนาอื่นด้วย ชี นักบวช เช่น ชีปะขาว คำเรียกหญิงที่นุ่งขาวห่มขาว โกนคิ้วโกนผม ถือศีล แม่ชีก็เรียก ชีต้น พระสงฆ์ที่เป็นอาจารย์ ภาษาโบราณใช้เรียกนักบวชหญิงว่ารูปชี ก็มี
- ถวาย บุคคลทั่วไปใช้ถึงพระภิกษุ หรือพระภิกษุถวายพระพรพระมหากษัตริย์และเจ้านาย
- เผดียงสงฆ์ แจ้งให้สงฆ์ทราบ
- นิมนต์ (เชิญ, เชื้อเชิญ) เช่นนิมนต์ไปฉัน นิมนต์รับบาตร
- อาราธนา (เชื้อเชิญ, นิมนต์, อ้อนวอน) เช่น อาราธนาแสดงธรรม อาราธนาพระปริตร อาราธนาศีล
- อุบาสก-อุบาสิกา บุรุษ-สตรีที่นับถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง คำลำลองว่าประสก-สีกา เป็นคฤหัสถ์ชายหญิงที่นับถือพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง
- ฉัน ฉันภัตตาคาร กินอาหาร ภิกษุฉันวันละ 2 ครั้งคือ ตอนเช้ากับตอนกลางวัน เรียกว่าฉันจังหันและฉันเพล
- โยม พระภิกษุใช้เรียกญาติผู้ใหญ่ หรือผู้มีอาวุโส เช่นบิดา เรียกว่าโยมผู้ชาย มารดาเรียกว่าโยมผู้หญิง หรือโยมพ่อโยมแม่ ฆราวาสจะกล่าวถึงญาติผู้ใหญ่ของท่านก็ใช้คำนี้ด้วย
- มรณภาพ, ถึงแก่มรณภาพ ตาย
- อาพาธ เจ็บไข้
- ประเคน มอบของส่งให้พระภิกษุกับมือ ผู้ชายต้องใช้สองมือยก ผู้หญิงจะยกส่งถึงมือต่อมือไม่ได้ พระภิกษุจะต้องเอาผ้าวางรองรับ โดยท่านถือชายผ้าอีกข้างหนึ่งไว้ ให้ผู้หญิงประเคนของนั้นลงบนผ้า
- หัตถบาส ใช้เรียกการนั่งของพระสงฆ์ในเวลาทำสังฆกรรมเพื่อแสดงความสามัคคีความพร้อมเพรียง โดยนั่งเว้นระยะห่างกันตามพระวินัยกำหนดอยู่ในที่ประชุมโดยไม่นั่งแยกกันหรือลุกเดินไปทางโน้นทางนี้ เรียกว่า นั่งหัตถบาส อีกความหมายของระยะหัตถบาสคือ มีกำหนดระยะห่าง ๒ ศอก คืบ มีวิธีวัดดังนี้ เมื่อภิกษุนั่งพับเพียบอยู่ ให้วัดจากด้านหลังของเธอมาถึงหน้าตักของเธอจะได้ระยะ ๑ ศอก แล้ววัดจากหน้าตักของเธอออกไปข้างหน้าอีก ๑ ศอก ๑ คืบ จะรวมได้เป็น ๒ ศอก ๑ คืบ นี้คือระยะหัตถบาส
- ครองผ้า ครองจีวร นุ่งห่ม ถ้าใช้กับพระสังฆราไปใช้ทรงจีวร ทรงสบง
- ภัตตาหาร อาหาร
- ปลงอาบัติ พระภิกษุแสดงความผิดของตนเพื่อเปลื้องโทษทางวินัย
- ปลงธรรมสังเวช พระภิกษุเกิดความสังเวชโดยธรรมเมื่อเห็นความแตกดับของสังขาร
- ปลงบริขาร พระภิกษุมอบบริขารให้ผู้อื่นเวลาใกล้ตาย
- ปลงผม โกนผม
- กุฏิ ที่อยู่ของพระภิกษุสามเณร
- บิณฑบาต รับอาหารใส่บาตรโดยพุทธศาสนิกชนตักบาตร
- ทำวัตร สวดมนต์
- จำวัด นอน
- สรง อาบน้ำใช้แก่บรรพชิตและเจ้านาย
ดู คำราชาศัพท์ หมวดพระสงฆ์ ทั้งหมด
ดูเครื่องมือช่วยเรียนรู้คำราชาศัพท์ ดังนี้