รวมสุดยอดสุภาษิตไทยที่ควรรู้! พร้อมความหมายและตัวอย่างการใช้งานจริง ✨

สุภาษิต คำพังเพย และสำนวนไทย คือมรดกทางภาษาที่บรรพบุรุษส่งต่อมาถึงพวกเราชาวไทย นอกจากจะมีความไพเราะทางภาษาแล้ว ยังแฝงไปด้วยคำสอนและข้อคิดที่มีค่า

สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้:

  • ✅ ความแตกต่างของคำสุภาษิตและกลุ่มคำที่ใกล้เคียง
  • ✅ รวมสุภาษิตยอดนิยม 50 คำ
  • ✅ ความหมายและคำอธิบายแบบเข้าใจง่าย
  • ✅ ตัวอย่างการใช้ในชีวิตประจำวัน
  • ✅ เทคนิคการจำแบบไม่มีลืม

🌟 สำนวนไทย คำสุภาษิต และคำพังเพย: เข้าใจความต่างใน 5 นาที!

ก่อนจะไปเรียนรู้สำนวนไทยกมาทำความรู้จักกับ "สำนวนไทย สุภาษิต และคำพังเพย" กันให้ชัด ๆ 📚

ก่อนจะไปดูตัวอย่างสำนวนไทยยอดฮิตทั้ง 50 คำ เรามาทำความเข้าใจก่อนดีกว่าว่า สำนวน สุภาษิต และคำพังเพยนั้นแตกต่างกันอย่างไร มีที่มาที่ไปยังไง และใช้ในสถานการณ์แบบไหน 🤔

1. คำสุภาษิต สอนใจแบบไทย ๆ 🏆

แบบเข้าใจง่าย:

  • "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น"
  • "รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา"

แบบต้องตีความ:

  • "กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้"
  • "ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม"

2. สำนวนไทย เปรียบเทียบได้กินใจ 🎯

  • "หัวล้านนั่งบังเยียด" (คนไม่มีความสามารถแต่ขวางทางคนอื่น)
  • "ขมิ้นกับปูน" (คู่อริที่เข้ากันไม่ได้)
  • "เกลือเป็นหนอน" (คนใกล้ชิดที่คอยทำร้าย)

3. คำพังเพย พูดเปรียบเปรยสไตล์ไทย 🗣

  • "รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง"
  • "เห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง"
  • "น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย"

4. คำคมแบบไทย ๆ คิดปุ๊บพูดปั๊บ ✨

  • "คนเราจะล้มเหลวหรือสำเร็จ อยู่ที่กำลังใจ"
  • "ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด"
  • "รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา"

5. คำขวัญ สร้างแรงบันดาลใจ 🌟

  • "เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า"
  • "กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง เมืองศูนย์กลางการปกครอง"

💡 Tips:

การใช้สำนวนไทยให้ถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ จะช่วยให้การสื่อสารมีสีสัน น่าสนใจ และทรงพลังมากขึ้น!


รวมสํานวนสุภาษิตยอดนิยม 50 สำนวน

รวมคําสุภาษิต 50 คํา ที่นิยมใช้ พร้อมความหมายแฝงคติเตือนใจ รวมสำนวนไทย คำสุภาษิต คำพังเพย

  1. กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ หมายถึง ทำอะไรไม่ทันท่วงที
  2. กินปูนร้อนท้อง หมายถึง ทำผิดแล้วมักออกตัว แสดงพิรุธ
  3. ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง หมายถึง ความสวยงามเกิดขึ้นได้จากการปรุงแต่ง
  4. ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ หมายถึง ต่างฝ่ายต่างรู้ความลับของกันและกัน
  5. ขายผ้า เอาหน้ารอด หมายถึง ยอมเสียทุกอย่างเพื่อรักษาชื่อเสียง
  6. ขิงก็ราข่าก็แรง หมายถึง ต่างคนต่างแรง ไม่ยอมกัน เรื่องเล็กก็เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ไป เพราะทิฐิมานะ
  7. ขี่ช้างจับตั๊กแตน หมายถึง ทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ได้ผลไม่คุ้มกับที่ต้องเสียไป
  8. เข้าตามตรอก ออกตามประตู หมายถึง ทำอะไรให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณี
  9. เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า ได้หน้าอย่าลืมหลัง หมายถึง อย่าประมาทต้องเตรียมให้พร้อม และให้มีสติกำหนดจดจำให้ดี
  10. เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม หมายถึง ประพฤติให้ถูกต้องตามกาลเทศะ เมื่อไปอยู่ในพวกเขาแล้ว ก็ต้องประพฤติคล้อยตามเขา
  11. คบคนดีมีศรีแก่ตัว คบคนชั่วอัปราชัย หมายถึง อัปราชัย ในที่นี้มีความหายเท่ากับ ปราชัย คือจะพ่ายแพ้ หมายถึงไม่เป็นมงคลแก่ตัว
  12. คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล หมายถึง คบใครก็จะเป็นคนอย่างนั้น
  13. คบคนให้ดูหน้าซื้อผ้าให้ดูเนื้อ หมายถึง ก่อนคบค้าสมาคมกับใคร ดูที่มาที่ไปให้ดีๆ
  14. ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี หมายถึง มีความสำนึกในความดีของสิ่งหรือบุคคลที่มีพระคุณต่อเรา กตเวที แปลว่า การตอบแทนต่อสิ่งหรือบุคคลที่มีพระคุณต่อเรา คนที่มีคุณสมบัตินี้ จะทำให้ตนเองและครอบครัวพบแต่ความเจริญรุ่งเรือง พบแต่ความสำเร็จ คุณสมบัตินี้ถือว่าเป็นทรัพย์อันประเสริฐในตัวบุคคล
  15. ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด หมายถึง แม้จะมีความรู้สูงแค่ไหนก็ตาม ถ้าความประพฤติไม่ดีแล้วก็เอาตัวไม่รอด เพราะไม่มีใครคบหาสมาคมด้วย หรือมีความรู้ แต่ไม่ใช้ความรู้ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร
  16. จับปลาสองมือ หมายถึง การที่คน ๆ หนึ่งทำสิ่งใดที่ยากพร้อม ๆ กัน ทำให้ล้มเหลวทั้งสองสิ่งนั้น สำนวนนี้นิยมใช้กับผู้ชายที่เกี้ยวผู้หญิงสองคนในเวลาเดียวกัน ซึ่งผลสุดท้ายแล้วผู้ชายคนนั้นจะมีปัญหาตามมา
  17. ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ หมายถึง ลูกผู้ชายที่ชื่อว่าตนมีความเก่งกล้าสามารถ จะต้องสำแดงวิชาความรู้และความสามารถให้ลือชาปรากฏแก่คนทั่วไป ดุจเสือ (ลายพาดกลอน) ก็ต้องมีลายฉะนั้น
  18. ดูวัวให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ ถ้าจะดูให้แน่ต้องดูถึงย่าถึงยาย หมายถึง วัวที่มีลักษณะดีนั้นให้ดูที่หาง ถ้าปลายหางเป็นพู่เหมือนใบโพธิ์ ก็นับว่าเป็นวัวที่มีลักษณะดีมาก การที่จะเลือกผู้หญิงมาเป็นคู่ครอง ไม่ใช่ดูเพียงตัวผู้หญิงเท่านั้น ต้องดูไปจนถึงแม่ด้วยว่าเป็นคนดีหรือไม่ เพราะลูกกับแม่ก็มักจะมีลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกัน และถ้าจะดูให้แน่จริงๆ ต้องสืบประวัติไปจนถึงย่ายายของหญิงนั้นด้วย
  19. ต่อหน้ามะพลับลับหลังตะโก หมายถึง ต่อหน้าทำอย่างหนึ่ง ลับหลังทำอีกอย่างหนึ่ง แบบหน้าไหว้ หลังหลอก
  20. ตามใจปากมากหนี้ หมายถึง เห็นแก่กินย่อมสิ้นเปลืองมาก
  21. น้ำขึ้นให้รีบตัก หมายถึง เมื่อเวลามีบุญมีวาสนา อย่างจะทำความดีอะไรก็รับทำๆ เสีย
  22. น้ำเชี่ยว อย่าขวางเรือ หมายถึง เมื่อมีเหตุการณ์รุนแรงอะไรเกิดขึ้น ก็อย่าไปขัดขวาง จะได้รับอันตราย เพราะตอนนี้ตนอยู่ในระยะหน้าสิ่งหน้าขวาน คนเรามักไม่มีเหตุผลดุจนน้ำเชี่ยว ถ้าเอาเรือไปขวาง เรือก็จะล่ม
  23. น้ำท่วมปาก หมายถึง การรู้อะไรแล้วพูดไม่ได้ พูดไม่ออกไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะมีความจำเป็นบางอย่างหรือเพราะเกรงจะมีภัยมาถึงตนเองแก่ตนหรือผู้อื่นที่เกี่ยวข้องด้วย รู้แล้วพูดออกมาไม่ได้ รู้สึกอึดอัด เหมือนน้ำท่วมปาก
  24. น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า หมายถึง ทุกคนต้องพึ่งพาอาศัยกัน ต้องเห็นอกเห็นใจกัน จึงควรผูกไมตรีกันไว้
  25. เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ หมายถึง ทั้งๆ ที่ตนไม่มีส่วนได้เป็นผลประโยชน์กับเขาเลย แต่ก็พลอยเข้าไปพัวพันในเรื่องร้าย ทำให้ต้องพลอยรับบาปรับเคราะห์เสียหายไปกับเขาด้วย
  26. ปากคนยาวกว่าปากกา หมายถึง ตามปรกติปากของอีกายาวกว่าปากคน แต่ปากคนนั้นพูดเล่าลือต่อปากกันไปได้ไกล ผิดกับกาแม้ปากจะยาว แต่ก็ต่อปากต่อคำอย่างคนไม่ได้
  27. ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ชั่วดีเป็นตรา หมายถึง สมัยก่อนการศึกษาเล่าเรียนเขียนอ่านยังไม่แพร่หลาย คนที่รู้หนังสือมีน้อย บางคนก็ได้ดีเพราะปาก การคิดเลขหรือการคำนวณนั้นมีความสำคัญน้อยลงมาอีก แม้เดี๋ยวนี้คนที่มีความรู้ดีแต่พูดไม่เก่ง ก็เอาดีได้ยาก ส่วนความชั่วความดีนี้ ทำลงไปแล้วย่อมเป็นเสมือนตราที่ประทับลงไปให้รู้ว่าคนนั้นเป็นคนดี หรือคนชั่ว
  28. พูดไปสองไพเบี้ยนิ่งเสียตำลึงทอง หมายถึง คำพูดบางครั้งหากพูดออกไปอาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อตนเองหรือคนรอบข้าง หากอยู่เฉย ๆ ไม่พูดอะไรออกไปยังจะก่อเกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่า
  29. มะนาวไม่มีน้ำ หมายถึง พูดห้าว ๆ หรือ พูดไม่มีหางเสียง
  30. ไม้ล้มข้ามได้ คนล้มอย่าเพิ่งข้าม หมายถึง ไม้ล้มข้ามไปไม่มีอันตรายอะไร แต่คนที่เคยมีอำนาจวาสนา แล้วหมดอำนาจ อย่าไปซ้ำเติมเขา เพราะเขาอาจกลับมามีอำนาจอีกได้
  31. ไม่เห็นน้ำ อย่าเพิ่งตัดกระบอก ไม่เห็นกระรอก อย่าเพิ่งโก่งหน้าไม้ หมายถึง อย่าด่วนทำอะไรล่วงหน้า โดยที่ยังไม่ทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในภายหน้า จะเหนื่อยเปล่า
  32. รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี หมายถึง วัวถ้าไม่ผูกไว้ ก็อาจหายได้ ถ้าลูกดื้อ พ่อแม่ก็ต้องดุต้องตีบ้าง แต่การที่พ่อแม่ตีไม่ใช่ตีด้วยความเกลียดชัง เพราะพ่อแม่ที่ตีนั้นก็ไม่อยากตี บางทีตีแล้วแอบไปร้องไห้ สงสารลูกก็มี แต่ถ้าไม่ตีเสียบ้าง ต่อไปถ้าลูกกลายเป็นคนชั่วช้าเลวทราม พ่อแม่จะต้องเสียน้ำตามากกว่านั้น
  33. เล่นกับหมา หมาเลียปาก เล่นกับสาก สากต่อยหัว หมายถึง ถ้าลดตัวไปเล่นหัวกับคนชั้นต่ำกว่า เขาก็อาจตีเสมอทำลวนลามเอา สากในที่นี้หมายถึงสากตำข้าวที่เขาพิงไว้ ถ้าใครซุกซนไปจับต้องเข้า สากอาจเลื่อนล้มทับถูกหัวถูกหูก็ได้
  34. เลือกนักมักได้แร่ หมายถึง เลือกไปเลือกมา ในที่สุดมักจะไปได้ที่ไม่ดี มักใช้ในกรณีเลือกคู่ เลือกไปเลือกมาในที่สุดไปได้คนที่ไม่ดีมาเป็นคู่ครอง แร่ในที่นี้หมายถึงขี้แร่ หรือแร่เลวๆ ที่ไม่มีค่าอะไรกัน
  35. วัวใครก็เข้าคอกคนนั้น หมายถึง ส่วนของใครก็เป็นของคนนั้น ไม่ก้าวก่ายหรือก้ำเกินในผลประโยชน์ของกันและกัน
  36. วัวหายแล้วจึงล้อมคอก หมายถึง เมื่อเกิดเสียหายขึ้นมาแล้วจึงหาทางป้องกันในภายหลัง ซึ่งนับว่าไม่ทันการณ์ ควรจะล้อมคอกเสียก่อนที่วัวจะหาย
  37. ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง หมายถึง พูดว่าคนอื่นอย่างไร ตนเองก็กลับเป็นอย่างนั้นเสียเองเหมือนอิเหนาที่ปรารภว่าไม่รักไม่ต้องการบุษบา แต่ตัวเองกลับลักพาบุษบาไป
  38. สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง หมายถึง คนเราแม้จะมีความรู้สูงอย่างนักปราชญ์ ก็อาจผิดพลาดได้เหมือนกัน ทุกคนจึงไม่ควรประมาท แม้สัตว์สี่เท้าเช่น วัวควายซึ่งมีสี่เท้าก็ยังอาจก้าวพลาดถึงล้มลงได้ ภาษิตนี้บางทีก็มีพูดต่อไปอีกว่า “สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง สองตีนโด่เด่ คงจะเซลงบ้าง”
  39. เสน่ห์ปลายจวัก ผัวรักจนตาย หมายถึง ผู้หญิงที่จะผูกมัดจิตใจสามีได้ ไม่ใช่เพียงเพราะความสวยอย่างเดียว เพราะความสวยงามเป็นของไม่จีรังยั่งยืนอะไร แต่ความดีโดยเฉพาะฝีมือในการปรุงอาหาร ถ้าหากสามารถทำให้ถูกปากสามีได้ ย่อมผูกใจสามีให้รักไปจนตาย
  40. เสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใคร หมายถึง เดิมเราถือกันว่า ผู้หญิงที่เป็นแม่ร้างเพราะสามีหนีไปนั้น แสดงว่าผู้หญิงผู้นั้นต้องมีอะไรบกพร่องเลวร้าย สังคมมักคิดว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี เพราะฉะนั้นผู้หญิงจึงไม่ยอมเสียสามีให้แก่หญิงใด เพราะเท่ากับเสียศักดิ์ศรีของตน แต่ในปัจจุบันอาจได้ยินบางคนพูดว่า “ถ้าได้ทองเท่าหัว ใครอยากได้ผัวก็เอกไป” แสดงว่าคนเดี๋ยวนี้เห็นแก่เงินมากขึ้น
  41. หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว หมายถึง การทำอะไรเพื่อประชดประชัน ไม่ได้ประโยชน์อะไร ผลเสียจะตกแก่ตน ส่วนผลดีจะไปได้แก่คนที่เราประชดให้
  42. ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว หมายถึง ทำทุกข์ให้แก่ผู้ใด เคราะห์กรรมที่ทำกับเขา อาจตกตามมาถึงตัวเองบ้าง อย่างบางคนชอบล่าสัตว์ บางทีไปยิงลูกของตน โดยเข้าใจว่าเป็นสัตว์ป่าก็มี
  43. อดเปรี้ยวไว้กินหวาน หมายถึง ให้มีความอดทน อดใจรอผลข้างหน้าที่จะดีกว่า คือละทิ้งสิ่งที่ไม่ดี เพราะอดใจรอเอาสิ่งที่ดีกว่า
  44. อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน หมายถึง อย่าหาเรื่องใส่ตัว การพูดหรือทำอะไรก้าวก่ายไปถึงผู้อื่นโดยมิบังควร ย่อมทำให้ตนได้รับความเดือดร้อนโดยไม่จำเป็น
  45. อย่าชิงสุกก่อนห่าม หมายถึง ตามปรกติผลไม้ เช่นมะม่วงก่อนจะสุก จะต้องห่ามเสียก่อน การกระทำอะไรต้องให้เป็นไปตามจังหวะขั้นตอนของมัน ถ้าทำผิดลำดับอาจเสียหาย เหมือนผลไม้ที่ยังไม่แก่ เอามาบ่มแม้จะสุก แต่ก็จะเข้าทำนองหัวหวานก้นเปรี้ยว หรือยังเรียนหนังสือไม่จบ ยังหาเงินไม่ได้ ริมีลูกมีเมียเสียก่อน ตัวเองก็จะเดือดร้อนลูกเมียก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย
  46. อย่าชี้โพรงให้กระรอก หมายถึง คืออย่าไปสอนผู้รู้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว เหมือนกับกระรอกมันย่อมรู้จักโพรงของมัน ไม่ต้องไปชี้บอกกับมันดอก
  47. อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง หมายถึง อย่าวางใจหรือไว้วางใจใครคนอื่นง่ายเกินไป จะเป็นเราที่เดือดร้อนในภายหลังได้
  48. อย่าเอาจมูกคนอื่นหายใจ หมายถึง ต้องรู้จักช่วยตัวเอง อย่าคิดแต่จะพึงพาอาศัยคนอื่นเสมอไป ถ้าเราทำอะไรได้เองก็สะดวก แต่ถ้าต้องคอยอาศัยคนอื่นเขาร่ำไป ย่อมไม่ได้รับความสะดวก เหมือนคนมีรถยนต์แล้วขับไม่เป็น จะไปไหนทีก็ต้องพึ่งคนขับอยู่เรื่อย ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยเราก็ไปไม่ได้
  49. อย่าเอาลูกเขามาเลี้ยง อย่าเอาเมี่ยงเขามาอม หมายถึง อย่าเอาของคนอื่นมาชื่นชมยินดี
  50. อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น หมายถึง เมื่ออยู่บ้านใคร อย่าอยู่เปล่า ควรทำการทำงานช่วยเหลือเขาเท่าที่จะทำได้ แม้เพียงเอาดินเหนียวมาปั้นวัวปั้นควายให้ลูกเจ้าของบ้านเล่นก็ยังดี เขาจะได้เมตตาสงสาร

ความหมายและคำอธิบายแบบเข้าใจง่าย

🔍 วิธีการอธิบายความหมาย

  • ความหมายตรง: อธิบายความหมายโดยตรงของสุภาษิต
  • ความหมายเปรียบเทียบ: การเปรียบเทียบกับสิ่งที่พบในชีวิตประจำวัน
  • ที่มาทางประวัติ: เล่าที่มาและเหตุผลของสุภาษิต

📝 โครงสร้างการอธิบาย

  1. สุภาษิต: "กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา"
  2. ความหมายตรง: ได้รับความเมตตาแต่ตอบแทนด้วยความชั่ว
  3. ความหมายเปรียบเทียบ: เหมือนการอยู่บ้านคนอื่นแล้วไม่รู้จักรักษาความสะอาด
  4. ที่มา: มาจากพฤติกรรมสัตว์เลี้ยงที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง

ตัวอย่างการใช้ในชีวิตประจำวัน

🎯 สถานการณ์ที่ใช้บ่อย

1. การทำงาน

สุภาษิต: "ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม"

  • การประชุมงาน: "เรื่องนี้สำคัญ เราควรค่อย ๆ พิจารณา ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม ดีกว่ารีบทำแล้วผิดพลาด"
  • การสอนงาน: "ไม่ต้องรีบร้อน ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม ค่อย ๆ เรียนรู้ไปนะ"

2. ความสัมพันธ์

สุภาษิต: "น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า"

  • การทำงานร่วมกัน: "เราต้องช่วยเหลือกัน น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า จึงจะประสบความสำเร็จ"
  • การอยู่ร่วมกันในสังคม: "ทุกคนต้องพึ่งพาอาศัยกัน เหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า"

เทคนิคการจำแบบไม่มีลืม

1. 🎵 เทคนิคการจำด้วยเสียง

  • จับคู่คำคล้องจอง
  • แต่งเป็นเพลงสั้น ๆ
  • สร้างจังหวะการท่อง

2. 🖼️ เทคนิคการจำด้วยภาพ

  • วาดภาพประกอบง่าย ๆ
  • สร้างการ์ตูนล้อเลียน
  • ทำแผนผังความคิด

3. 🎭 เทคนิคการจำด้วยเรื่องราว

  • เชื่อมโยงกับประสบการณ์ส่วนตัว
  • แต่งเรื่องสั้นจากสุภาษิต
  • สร้างสถานการณ์จำลอง

💡 เคล็ดลับการฝึกฝน

  1. ทบทวนสม่ำเสมอ ทุกวันละ 2-3 สำนวน
  2. ใช้ในการสนทนาจริง
  3. สร้างบัตรคำหรือโน้ตย่อ
  4. แบ่งปันความรู้กับผู้อื่น

รวบรวมสุภาษิตไทยมาให้ถึง 200 คำ ทั้งที่คุ้นหูและหายาก แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาบรรพบุรุษที่ถ่ายทอดข้อคิดผ่านถ้อยคำกระชับ คมคาย จนได้รับการบรรจุในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ทีมงาน Wordy Guru หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่าน ในการนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน หากท่านมีสำนวนสุภาษิตเพิ่มเติม สามารถแบ่งปันได้ในช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่าง

ชอบเนื้อหาชุดนี้ กดให้คะแนน 5 ดาวกับเราได้เลยจ้า
จำนวนผู้ให้คะแนน: 5   คะแนนเฉลี่ย: 4.2
Wordy Guru Team

เกี่ยวกับผู้เขียน: Wordy Guru Team

ทีม Wordy Guru คือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยที่ทุ่มเทในการให้ข้อมูลที่ครอบคลุมและถูกต้องเกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาไทย ทีมของเรามีนักภาษาศาสตร์ และบุคลากรทางการศึกษาที่มีประสบการณ์มายาวนาน