รวมสุดยอดสุภาษิตไทยที่ควรรู้! พร้อมความหมายและตัวอย่างการใช้งานจริง ✨

สุภาษิต คำพังเพย และสำนวนไทย คือมรดกทางภาษาที่บรรพบุรุษส่งต่อมาถึงพวกเราชาวไทย นอกจากจะมีความไพเราะทางภาษาแล้ว ยังแฝงไปด้วยคำสอนและข้อคิดที่มีค่า

สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้:

  • ✅ ความแตกต่างของคำสุภาษิตและกลุ่มคำที่ใกล้เคียง
  • ✅ รวมสุภาษิตยอดนิยม 100 คำ
  • ✅ ความหมายและคำอธิบายแบบเข้าใจง่าย
  • ✅ ตัวอย่างการใช้ในชีวิตประจำวัน
  • ✅ เทคนิคการจำแบบไม่มีลืม

🌟 สำนวนไทย คำสุภาษิต และคำพังเพย: เข้าใจความต่างใน 5 นาที!

ก่อนจะไปเรียนรู้สำนวนไทยกมาทำความรู้จักกับ "สำนวนไทย สุภาษิต และคำพังเพย" กันให้ชัด ๆ 📚

ก่อนจะไปดูตัวอย่างสำนวนไทยยอดฮิตทั้ง 100 คำ เรามาทำความเข้าใจก่อนดีกว่าว่า สำนวน สุภาษิต และคำพังเพยนั้นแตกต่างกันอย่างไร มีที่มาที่ไปยังไง และใช้ในสถานการณ์แบบไหน 🤔

1. คำสุภาษิต สอนใจแบบไทย ๆ 🏆

แบบเข้าใจง่าย:

  • "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น"
  • "รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา"

แบบต้องตีความ:

  • "กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้"
  • "ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม"

2. สำนวนไทย เปรียบเทียบได้กินใจ 🎯

  • "หัวล้านนั่งบังเยียด" (คนไม่มีความสามารถแต่ขวางทางคนอื่น)
  • "ขมิ้นกับปูน" (คู่อริที่เข้ากันไม่ได้)
  • "เกลือเป็นหนอน" (คนใกล้ชิดที่คอยทำร้าย)

3. คำพังเพย พูดเปรียบเปรยสไตล์ไทย 🗣

  • "รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง"
  • "เห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง"
  • "น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย"

4. คำคมแบบไทย ๆ คิดปุ๊บพูดปั๊บ ✨

  • "คนเราจะล้มเหลวหรือสำเร็จ อยู่ที่กำลังใจ"
  • "ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด"
  • "รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา"

5. คำขวัญ สร้างแรงบันดาลใจ 🌟

  • "เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า"
  • "กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง เมืองศูนย์กลางการปกครอง"

💡 Tips:

การใช้สำนวนไทยให้ถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ จะช่วยให้การสื่อสารมีสีสัน น่าสนใจ และทรงพลังมากขึ้น!


สํานวนสุภาษิตหมวด ก - ข

  1. กระต่ายตื่นตูม หมายถึง คนที่แสดงอาการตื่นตกใจง่ายโดยไม่ทันสำรวจให้ถ่องแท้ก่อน
  2. กลัวให้ถูกท่า กล้าให้ถูกที่ ดีให้ถูกทาง หมายถึง ทำอะไรก็ต้องให้ถูกกาลเทศะ
  3. กินปูนร้อนท้อง หมายถึง ทำผิดแล้วมักออกตัว แสดงพิรุธ
  4. เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน หมายถึง ถึงจะทำงานเล็กใหญ่ หรือค้าขายอะไรก็ตาม ก็พยายามค่อยๆ ทำให้ดีขึ้นแม้เล็กน้อยๆ เมื่อรวมกันและใช้เวลาก็จะทำให้การงานนั้นเห็นผลเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้
  5. ขายผ้า เอาหน้ารอด หมายถึง ยอมเสียทุกอย่างเพื่อรักษาชื่อเสียง
  6. ขิงก็ราข่าก็แรง หมายถึง ต่างคนต่างแรง ไม่ยอมกัน เรื่องเล็กก็เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ไป เพราะทิฐิมานะ
  7. ขี่ช้างจับตั๊กแตน หมายถึง ทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ได้ผลไม่คุ้มกับที่ต้องเสียไป
  8. เข็นครกขึ้นภูเขา หมายถึง ทำงานที่ยากลำบากต้องใช้ความเพียรพยายามและอดทนมาก
  9. เข้าตามตรอก ออกตามประตู หมายถึง ทำอะไรให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณี
  10. เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า ได้หน้าอย่าลืมหลัง หมายถึง อย่าประมาทต้องเตรียมให้พร้อม และให้มีสติกำหนดจดจำให้ดี
  11. เขียนเสือให้วัวกลัว หมายถึง ขู่ให้กลัว

สํานวนสุภาษิตหมวด ค - ถ

  1. คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ หมายถึง คนดีไปที่ไหนก็มีคนอยากคบหาสมาคมด้วย ไม่ลำบาก
  2. คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลับมาได้ หมายถึง ทำงานเป็นทีมจะให้สถานการณ์ที่ดีกว่า
  3. คบคนดีมีศรีแก่ตัว คบคนชั่วอัปราชัย หมายถึง อัปราชัย ในที่นี้มีความหายเท่ากับ ปราชัย คือจะพ่ายแพ้ หมายถึงไม่เป็นมงคลแก่ตัว
  4. คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล หมายถึง คบใครก็จะเป็นคนอย่างนั้น
  5. ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี หมายถึง มีความสำนึกในความดีของสิ่งหรือบุคคลที่มีพระคุณต่อเรา กตเวที แปลว่า การตอบแทนต่อสิ่งหรือบุคคลที่มีพระคุณต่อเรา คนที่มีคุณสมบัตินี้ จะทำให้ตนเองและครอบครัวพบแต่ความเจริญรุ่งเรือง พบแต่ความสำเร็จ คุณสมบัตินี้ถือว่าเป็นทรัพย์อันประเสริฐในตัวบุคคล
  6. ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด หมายถึง แม้จะมีความรู้สูงแค่ไหนก็ตาม ถ้าความประพฤติไม่ดีแล้วก็เอาตัวไม่รอด เพราะไม่มีใครคบหาสมาคมด้วย หรือมีความรู้ แต่ไม่ใช้ความรู้ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร
  7. ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก หมายถึง มีเรื่องราวเดือดร้อนเกิดขึ้น ยังไม่ทันจะแก้ไขหรือจัดการให้สงบดี ก็เกิดมีเรื่องใหม่ซ้อนขึ้นมาอีก กลายเป็น 2 เรื่องขึ้นในคราวเดียว
  8. คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก หมายถึง ที่อยู่อาศัย แม้จะคับแคบเพียงใด ถ้ารู้จักทำให้ดี ก็น่าอยู่ แต่ถ้าหากมีความคับอกคับใจแล้ว แม้ที่จะกว้างขวางใหญ่โต ก็มิได้ทำให้สบายอกสบายใจเลย มีแต่จะรู้สึกอึดอัดใจแต่ถ่ายเดียว
  9. คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล หมายถึง อย่าประมาททะเล แค่คืบแค่ศอกก็ทะเล ตกไปก็มีหวังจมน้ำตายทั้งนั้น
  10. ฆ่าควายก็ต้องไม่เสียดายพริก หมายถึง ถ้าคิดจะทำงานใหญ่ทั้งที ก็ต้องไม่กลัวหมดเปลือง
  11. ฆ่าช้างจะเอางา คนเจรจาจะเอาถ้อยคำ หมายถึง ที่เขาฆ่าช้างก็เพราะเขาหวังจะเอางาซึ่งมีราคาแพง เมื่อคนเราเจรจากัน ถ้อยคำหรือคำพูดถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ควรจะเป็นคำพูดที่มีความจริงใจ เชื่อถือได้
  12. จับปลาสองมือ หมายถึง การที่คน ๆ หนึ่งทำสิ่งใดที่ยากพร้อม ๆ กัน ทำให้ล้มเหลวทั้งสองสิ่งนั้น สำนวนนี้นิยมใช้กับผู้ชายที่เกี้ยวผู้หญิงสองคนในเวลาเดียวกัน ซึ่งผลสุดท้ายแล้วผู้ชายคนนั้นจะมีปัญหาตามมา
  13. จำศีลเอาหน้า ภาวนาโกหก หมายถึง แสร้งทำเป็นว่าถือศีลเคร่งครัด ชอบเจริญภาวนาเข้ากรรมฐาน ที่ลวงให้คนอื่นเข้าใจว่าตนเป็นมีศีลมีธรรม เขาจะได้เชื่อถือไว้วางใจ
  14. ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน หมายถึง ชีวิตคนเราเอาแน่นอนอะไรไม่ได้ เดี๋ยวรุ่งเรือง เดี๋ยวตกอับ ดังนั้นเมื่อถึงคราวตกอับ ก็อย่าเพิ่งท้อถอย หรือหมดอาลัยในชีวิต และเมื่อถึงคราวรุ่งเรือง มีอำนาจวาสนา ก็อย่าลืมตัว อย่าประมาท
  15. ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ หมายถึง ใครจะเป็นอะไรก็ช่าง ไม่ควรถือเอาเป็นธุระ
  16. ช้า ๆ ได้พร้าสองเล่มงาม ด่วนได้สามผลามมักพลิกแพลง หมายถึง จะทำอะไรก็ทำอย่างมีสติ รอบคอบ แม้จะช้าไปบ้างก็ได้ผลดี แต่ถ้าทำอย่างรีบร้อน ไม่พินิจพิเคราะห์ให้ดีก่อน อาจผิดพลาดเสียหายได้ง่าย
  17. ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิด หมายถึง ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ ใบบัวมีขนาดเล็ก ถ้าเอาใบบัวใบเดียวไปปิดช้าง ย่อมปิดไม่มิด คนที่ทำความชั่วไว้มากมาย ถึงจะปิดอย่างไรๆ ก็ปิดไม่หมด คนย่อมรู้เข้าจนได้
  18. ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่า เมียรัก อย่าได้ไว้วางใจ หมายถึง ช้างสารและงูเห่า เป็นสัตว์เดรัจฉานไว้ใจไม่ได้ ข้าเก่าและเมียรัก เป็นบุคคลที่ใกล้ชิด ย่อมรู้เรื่องราวและความลับของเราหมด บุคคลประเภทนี้ ถ้ากลับกลายเป็นศัตรูแล้วจะเป็นศัตรูที่ร้ายที่สุด ดังนั้นจึงไม่ควรไว้วางใจจนเกินไป
  19. ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ หมายถึง ลูกผู้ชายที่ชื่อว่าตนมีความเก่งกล้าสามารถ จะต้องสำแดงวิชาความรู้และความสามารถให้ลือชาปรากฏแก่คนทั่วไป ดุจเสือ (ลายพาดกลอน) ก็ต้องมีลายฉะนั้น
  20. ดูช้างให้ดูหน้าหนาว ดูสาวให้ดูหน้าร้อน หมายถึง หน้าหนาวช้างจะตกมัน ตอนนี้แหละเราจะเห็นลักษณะท่าทางของช้างว่ามีความห้าวหาญดุดันอย่างไร หน้าร้อนอากาศอ้าว ผู้หญิงก็ใช้ผ้าน้อยชิ้น หรือผ้าบางๆ ทำให้มองเห็นรูปร่างทรวดทรงและผิวพรรณของผู้หญิงว่าสวยงามแค่ไหนเพียงใด
  21. ตบมือข้างเดียวไม่ดัง หมายถึง ทำอะไรฝ่ายเดียวไม่เกิดผล
  22. ตักบาตรอย่าถามพระ หมายถึง จะให้อะไรแก่ใคร เมื่อทราบว่าเขาเต็มใจรับอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องถามว่าจะเอาไหม
  23. ตามใจปากมากหนี้ หมายถึง เห็นแก่กินย่อมสิ้นเปลืองมาก
  24. ถ้าไม่มีไฟ ที่ไหนจะมีควัน หมายถึง เมื่อมีผลออกมา มันต้องมีเหตุแน่ๆ

สํานวนสุภาษิตหมวด น - ร

  1. นอนสูงให้นอนคว่ำ นอนต่ำให้นอนหงาย หมายถึง เมื่อนอนในที่สูง ถ้านอนคว่ำ อะไรผ่านไปผ่านมาข้างล่างก็มองเห็นหมด และเมื่อนอนในที่ต่ำ ถ้านอนหงาย อะไรผ่านไปผ่านมาข้างบนก็มองเห็นหมด ถ้านอนต่ำแล้วนอนคว่ำหน้าจะจดพื้น มองไม่เห็นอะไร
  2. นายว่า ขี้ข้าพลอย หมายถึง ลักษณะของคนเลว ไร้ความรู้ ถ้าเจ้านายว่าอย่างไร ก็มักจะพลอยประสมโรงซ้ำเติมด้วย
  3. น้ำขึ้นให้รีบตัก หมายถึง เมื่อเวลามีบุญมีวาสนา อย่างจะทำความดีอะไรก็รับทำๆ เสีย
  4. น้ำเชี่ยว อย่าขวางเรือ หมายถึง เมื่อมีเหตุการณ์รุนแรงอะไรเกิดขึ้น ก็อย่าไปขัดขวาง จะได้รับอันตราย เพราะตอนนี้ตนอยู่ในระยะหน้าสิ่งหน้าขวาน คนเรามักไม่มีเหตุผลดุจนน้ำเชี่ยว ถ้าเอาเรือไปขวาง เรือก็จะล่ม
  5. น้ำท่วมปาก หมายถึง การรู้อะไรแล้วพูดไม่ได้ พูดไม่ออกไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะมีความจำเป็นบางอย่างหรือเพราะเกรงจะมีภัยมาถึงตนเองแก่ตนหรือผู้อื่นที่เกี่ยวข้องด้วย รู้แล้วพูดออกมาไม่ได้ รู้สึกอึดอัด เหมือนน้ำท่วมปาก
  6. น้ำลด ตอผุด หมายถึง ความชั่วเมื่อทำไว้ในเวลาที่ตนมีอำนาจนั้น อาจไม่มีใครทราบ แต่เมื่อหมดบุญ หมดอำนาจ บรรดาความชั่วที่ปิดบังกันไว้นั้น ก็จะปรากฏออกมา
  7. น้ำลึกหยั่งได้ น้ำใจหยั่งยาก หมายถึง น้ำลึกเป็นเรื่องรูปธรรม เราหาวัตถุมาวัดได้ แต่น้ำใจเป็นเรื่องนามธรรม ไม่มีเครื่องวัด
  8. เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ หมายถึง ทั้งๆ ที่ตนไม่มีส่วนได้เป็นผลประโยชน์กับเขาเลย แต่ก็พลอยเข้าไปพัวพันในเรื่องร้าย ทำให้ต้องพลอยรับบาปรับเคราะห์เสียหายไปกับเขาด้วย
  9. บุญมา ปัญญาช่วย ที่ป่วยก็หาย ที่หน่ายก็รัก หมายถึง ในเวลาที่มีบุญวาสนา สติปัญญาก็ปลอดโปร่ง กำลังใจดี แม้จะเจ็บไข้ได้ป่วย ก็จะหายวันหายคืน เพราะเขาหวังว่าจะได้รับประโยชน์จากผู้มีวาสนานั้น และจะมีภาษิตต่อท้ายอีกว่า “บุญไม่มา ปัญญาไม่ช่วย ที่ป่วยก็หนัก ที่รักก็หน่าย” ซึ่งมีนัยตรงข้ามกัน
  10. ปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยปลาลงน้ำ หมายถึง ปล่อยศัตรูสำคัญหรือโจรผู้ร้าย ที่ตกอยู่ในอำนาจให้พ้นไปนั้น จะทำให้เขากลับมีกำลังและอาจกลับเข้ามาก่อความเดือดร้อนได้อีก
  11. ปลาข้องเดียวกัน ตัวหนึ่งเน่า ก็พาตัวอื่นพลอยเหม็นไปด้วย หมายถึง คนที่อยู่ร่วมกัน ถ้าคนหนึ่งไปทำชั่ว ทำไม่ดีไว้ ก็จะพลอยทำให้คนอื่นเสียหายไปด้วย
  12. ปลาหมอตายเพราะปาก หมายถึง คนที่ชอบพูดอะไรพล่อยๆ มักจะได้รับอันตรายเพราะปากที่พูดพล่อยๆ นั้น
  13. ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ต้องตามใจผู้นอน หมายถึง จะทำอะไรก็ต้องตามใจผู้ที่จะได้รับผล เหมือนปลูกเรือนต้องปลูกตามที่ผู้อยู่ต้องการ ไม่ใช่ตามที่ช่างต้องการ เพราะช่างหรือสถาปนิกไม่ใช้ผู้อาศัย ผูกอู่ก็คือผูกเปล ก็ต้องให้ถูกใจผู้นอน
  14. ปากคนยาวกว่าปากกา หมายถึง ตามปรกติปากของอีกายาวกว่าปากคน แต่ปากคนนั้นพูดเล่าลือต่อปากกันไปได้ไกล ผิดกับกาแม้ปากจะยาว แต่ก็ต่อปากต่อคำอย่างคนไม่ได้
  15. ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ชั่วดีเป็นตรา หมายถึง สมัยก่อนการศึกษาเล่าเรียนเขียนอ่านยังไม่แพร่หลาย คนที่รู้หนังสือมีน้อย บางคนก็ได้ดีเพราะปาก การคิดเลขหรือการคำนวณนั้นมีความสำคัญน้อยลงมาอีก แม้เดี๋ยวนี้คนที่มีความรู้ดีแต่พูดไม่เก่ง ก็เอาดีได้ยาก ส่วนความชั่วความดีนี้ ทำลงไปแล้วย่อมเป็นเสมือนตราที่ประทับลงไปให้รู้ว่าคนนั้นเป็นคนดี หรือคนชั่ว
  16. ไปไหนมาสามวาสองศอก หมายถึง ถามอย่างหนึ่ง แต่ตอบอีกอย่างหนึ่ง
  17. พูดไปสองไพเบี้ยนิ่งเสียตำลึงทอง หมายถึง คำพูดบางครั้งหากพูดออกไปอาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อตนเองหรือคนรอบข้าง หากอยู่เฉย ๆ ไม่พูดอะไรออกไปยังจะก่อเกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่า
  18. มีเงินเขานับว่าเป็นน้อง มีทองเขานับว่าเป็นพี่ หมายถึง เมื่อมั่งมีเงินมีทองแล้ว ใคร ๆ ก็ประจบอยากเข้ามาเป็นญาติพี่น้องด้วย
  19. มีเงินมีทองเจรจาได้ มีไม้มีไร่ปลูกเรือนงาม หมายถึง ถ้ามีเงินมีทองแล้วจะพูดอะไรก็มักจะสำเร็จ ถ้ามีไม้มีที่แล้ว ก็ย่อมปลูกเรือนได้สวยงาม
  20. ไม้ล้มข้ามได้ คนล้มอย่าเพิ่งข้าม หมายถึง ไม้ล้มข้ามไปไม่มีอันตรายอะไร แต่คนที่เคยมีอำนาจวาสนา แล้วหมดอำนาจ อย่าไปซ้ำเติมเขา เพราะเขาอาจกลับมามีอำนาจอีกได้
  21. ไม้ลำเดียวยังต่างปล้อง พี่กับน้องยังต่างใจ หมายถึง คือคนเรา นานาจิตตัง มีความเห็นไม่เหมือนกัน เหมือนไม้ไผ่ลำเดียวกัน ก็มีหลายปล้อง แต่ละปล่องก็ยาวไม่เท่ากัน พี่น้องแม้ท้องเดียวกัน แต่ความคิดเห็นก็ไม่จำเป็นจะต้องเหมือนกัน
  22. ไม่เห็นน้ำ อย่าเพิ่งตัดกระบอก ไม่เห็นกระรอก อย่าเพิ่งโก่งหน้าไม้ หมายถึง อย่าด่วนทำอะไรล่วงหน้า โดยที่ยังไม่ทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในภายหน้า จะเหนื่อยเปล่า
  23. ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก หมายถึง จะอบรมสั่งสอนอะไรก็ทำเสียตั้งแต่เด็ก เพราะอบรมสั่งสอนง่าย จะสอนให้เป็นอะไรก็ได้ ส่วนคนแก่นั้นสอนยาก เหมือนไม้แก่ถ้าดัดก็หัก ผิดกับไม้อ่อนซึ่งดัดง่ายไม่หัก
  24. รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ หมายถึง รักจะคบกันนาน ๆ ให้ตัดความคิดอาฆาตพยาบาทออกไป รักจะอยู่สั้น ๆ ให้คิดอาฆาต
  25. รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี หมายถึง วัวถ้าไม่ผูกไว้ ก็อาจหายได้ ถ้าลูกดื้อ พ่อแม่ก็ต้องดุต้องตีบ้าง แต่การที่พ่อแม่ตีไม่ใช่ตีด้วยความเกลียดชัง เพราะพ่อแม่ที่ตีนั้นก็ไม่อยากตี บางทีตีแล้วแอบไปร้องไห้ สงสารลูกก็มี แต่ถ้าไม่ตีเสียบ้าง ต่อไปถ้าลูกกลายเป็นคนชั่วช้าเลวทราม พ่อแม่จะต้องเสียน้ำตามากกว่านั้น
  26. เรือล่มในหนองทองจะไปไหน หมายถึง เมื่อจะต้องสูญเสียอะไรไปอย่างไม่มีทางที่จะสูญเปล่า ก็ไม่ต้องวิตกทุกข์ร้อนอะไร
  27. เรือล่มเมื่อจอดตาบอดเมื่อแก่ หมายถึง ทำอะไรต่ออะไรดีมาตลอด แต่พอเสร็จกลับไม่ได้ผลอะไร หรือมาล้มเหลวเมื่อปลายมือ หรือในตอนท้าย

สํานวนสุภาษิตหมวด ล - ห

  1. เล่นกับหมา หมาเลียปาก เล่นกับสาก สากต่อยหัว หมายถึง ถ้าลดตัวไปเล่นหัวกับคนชั้นต่ำกว่า เขาก็อาจตีเสมอทำลวนลามเอา สากในที่นี้หมายถึงสากตำข้าวที่เขาพิงไว้ ถ้าใครซุกซนไปจับต้องเข้า สากอาจเลื่อนล้มทับถูกหัวถูกหูก็ได้
  2. เลี้ยงช้างกินขี้ช้าง หมายถึง หาเศษหาเลยหรือมีผลประโยชน์พลอยได้จากหน้าที่ที่ตนทำเปรียบเหมือนคนเลี้ยงช้าง ซึ่งช้างก็มีค่าหญ้าอันเป็นส่วนของช้าง คนเลี้ยงช้างอาจเบียดบังเอาส่วนหนึ่งของค่าหญ้าเป็นผลประโยชน์ของตัว
  3. เลือกนักมักได้แร่ หมายถึง เลือกไปเลือกมา ในที่สุดมักจะไปได้ที่ไม่ดี มักใช้ในกรณีเลือกคู่ เลือกไปเลือกมาในที่สุดไปได้คนที่ไม่ดีมาเป็นคู่ครอง แร่ในที่นี้หมายถึงขี้แร่ หรือแร่เลวๆ ที่ไม่มีค่าอะไรกัน
  4. โลภมาก ลาภหาย หมายถึง โลภมากเกินไป ในที่สุดจะไม่ได้อะไรเลย ท่าสอนให้รู้จักมีความพอประมาณไว้บ้าง
  5. วัวใครก็เข้าคอกคนนั้น หมายถึง ส่วนของใครก็เป็นของคนนั้น ไม่ก้าวก่ายหรือก้ำเกินในผลประโยชน์ของกันและกัน
  6. วัวสันหลังขาด เห็นกาบินผาดก็ตกใจ หมายถึง คนที่มีความผิดติดตัว มักจะมีพิรุธ มีอาการหวาดระแวงอยู่เสมอ กลัวคนอื่นจะรู้ เหมือนวัวสันหลังหวะเป็นแผล พอเห็นกาบินมาก็หวาดกลัว เกรงว่ากาจะโฉบลงมาจิกที่แผลนั้น บางทีก็พูดว่า “วัวสันหลังหวะ”
  7. วัวหายแล้วจึงล้อมคอก หมายถึง เมื่อเกิดเสียหายขึ้นมาแล้วจึงหาทางป้องกันในภายหลัง ซึ่งนับว่าไม่ทันการณ์ ควรจะล้อมคอกเสียก่อนที่วัวจะหาย
  8. วัวเห็นแก่หญ้าขี้ข้าเห็นแก่กิน หมายถึง หมายถึงคนที่เห็นแก่ได้ เห็นแก่กิน และเกียจคร้าน
  9. ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง หมายถึง พูดว่าคนอื่นอย่างไร ตนเองก็กลับเป็นอย่างนั้นเสียเองเหมือนอิเหนาที่ปรารภว่าไม่รักไม่ต้องการบุษบา แต่ตัวเองกลับลักพาบุษบาไป
  10. สอนเด็ก สอนง่าย สอนผู้ใหญ่ สอนยาก หมายถึง จะอบรมสั่งสอนอะไรก็ทำเสียตั้งแต่เด็ก เพราะอบรมสั่งสอนง่าย จะสอนให้เป็นอะไรก็ได้ ส่วนคนแก่นั้นสอนยาก เหมือนไม้แก่ถ้าดัดก็หัก ผิดกับไม้อ่อนซึ่งดัดง่ายไม่หัก
  11. เสน่ห์ปลายจวัก ผัวรักจนตาย หมายถึง ผู้หญิงที่จะผูกมัดจิตใจสามีได้ ไม่ใช่เพียงเพราะความสวยอย่างเดียว เพราะความสวยงามเป็นของไม่จีรังยั่งยืนอะไร แต่ความดีโดยเฉพาะฝีมือในการปรุงอาหาร ถ้าหากสามารถทำให้ถูกปากสามีได้ ย่อมผูกใจสามีให้รักไปจนตาย
  12. เสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใคร หมายถึง เดิมเราถือกันว่า ผู้หญิงที่เป็นแม่ร้างเพราะสามีหนีไปนั้น แสดงว่าผู้หญิงผู้นั้นต้องมีอะไรบกพร่องเลวร้าย สังคมมักคิดว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี เพราะฉะนั้นผู้หญิงจึงไม่ยอมเสียสามีให้แก่หญิงใด เพราะเท่ากับเสียศักดิ์ศรีของตน แต่ในปัจจุบันอาจได้ยินบางคนพูดว่า “ถ้าได้ทองเท่าหัว ใครอยากได้ผัวก็เอกไป” แสดงว่าคนเดี๋ยวนี้เห็นแก่เงินมากขึ้น
  13. เสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย หมายถึง เวลาจะต้องเสียงเพียงเล็กน้อย ไม่อยากจะเสีย แต่พอถึงคราวต้องเสียมาก ๆ รับควักเงินให้ทันที อย่างข้าวของที่ชำรุดไปเล็กน้อย แทนที่จะรีบซ่อมแซมเสีย กลับปล่อยให้เสียมาก แล้วจึงซ่อมแซม ซึ่งต้องหมดเงินมากกว่าหลายเท่า
  14. หญิงสามผัว ชายสามโบสถ์ อย่าได้คบ หมายถึง แสดงว่ามีจิตใจรวนเร คบเป็นเพื่อนตายไม่ได้ เพราะเมื่อถึงคราวคับขัน อาจปลีกตัวหนีเอาตัวรอดไปตามลำพังได้
  15. หมาขี้ไม่มีใครยกหาง หมายถึง หมายถึงคนที่ชอบยกย่องตัวเอง
  16. หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว หมายถึง การทำอะไรเพื่อประชดประชัน ไม่ได้ประโยชน์อะไร ผลเสียจะตกแก่ตน ส่วนผลดีจะไปได้แก่คนที่เราประชดให้
  17. ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว หมายถึง ทำทุกข์ให้แก่ผู้ใด เคราะห์กรรมที่ทำกับเขา อาจตกตามมาถึงตัวเองบ้าง อย่างบางคนชอบล่าสัตว์ บางทีไปยิงลูกของตน โดยเข้าใจว่าเป็นสัตว์ป่าก็มี

สํานวนสุภาษิตหมวด อ

  1. อดเปรี้ยวไว้กินหวาน หมายถึง ให้มีความอดทน อดใจรอผลข้างหน้าที่จะดีกว่า คือละทิ้งสิ่งที่ไม่ดี เพราะอดใจรอเอาสิ่งที่ดีกว่า
  2. อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน หมายถึง อย่าหาเรื่องใส่ตัว การพูดหรือทำอะไรก้าวก่ายไปถึงผู้อื่นโดยมิบังควร ย่อมทำให้ตนได้รับความเดือดร้อนโดยไม่จำเป็น
  3. อย่าข่มเขาโคขืนให้กินหญ้า หมายถึง อย่าบังคับขืนใจผู้อื่นให้ทำตามใจตน
  4. อย่าคบคนจร นอนหมอนหมิ่น หมายถึง อย่าคบคนจร ที่เราไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าหรือไม่รู้จักประวัติเสียก่อน
  5. อย่าชักน้ำเข้าลึก อย่าชักศึกเข้าบ้าน หมายถึง บางทีก็พูดว่า “อย่าชักเรือเข้าลึก” หมายความว่า อย่าทำอะไรที่เป็นเหตุให้อันตรายมาถึงตัว
  6. อย่าชิงสุกก่อนห่าม หมายถึง ตามปรกติผลไม้ เช่นมะม่วงก่อนจะสุก จะต้องห่ามเสียก่อน การกระทำอะไรต้องให้เป็นไปตามจังหวะขั้นตอนของมัน ถ้าทำผิดลำดับอาจเสียหาย เหมือนผลไม้ที่ยังไม่แก่ เอามาบ่มแม้จะสุก แต่ก็จะเข้าทำนองหัวหวานก้นเปรี้ยว หรือยังเรียนหนังสือไม่จบ ยังหาเงินไม่ได้ ริมีลูกมีเมียเสียก่อน ตัวเองก็จะเดือดร้อนลูกเมียก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย
  7. อย่าชี้โพรงให้กระรอก หมายถึง คืออย่าไปสอนผู้รู้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว เหมือนกับกระรอกมันย่อมรู้จักโพรงของมัน ไม่ต้องไปชี้บอกกับมันดอก
  8. อย่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ หมายถึง อย่าทำอะไรที่ต้องเสียทรัพย์โดยไม่ได้ประโยชน์คุ้มกับเงินทองที่ต้องเสียไป เหมือนตำน้ำพริกเพียงครกหนึ่งแล้วเอาไปละลายในแม่น้ำ ซึ่งมีน้ำมาก จะทำให้น้ำในแม่น้ำกลายเป็นน้ำพริกอย่างในหม้อแกงไม่ได้
  9. อย่าติเรือทั้งโกลน หมายถึง เรือสมัยโบราณซึ่งเอาซุงทั้งต้นมาขุด เช่น เรือมาดที่เขาทำเป็นรูปร่างแล้วแต่ยังไม่แล้วเสร็จ อย่างเพิ่งไปด่วนติ
  10. อย่าทำตัวเป็นกิ้งก่าได้ทอง หมายถึง อย่าเย่อหยิ่งจองหองเพราะเพียงได้ดีหรือมีทรัพย์ขึ้นมาเพียงเล็กน้อย
  11. อย่าทำเป็นหมาเห่าใบตองแห้ง หมายถึง อย่าทำพูดอวดเก่ง หรือเก่งแต่ปาก
  12. อย่าละเลงขนมเบื้องด้วยปาก หมายถึง อย่าเป็นคนดีแต่พูด คือพูดได้ แต่ทำไม่ได้
  13. อย่าเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้ หมายถึง อย่าเอาลูกโจรหรือลูกคนชั่วคนเลวมาเลี้ยง เพราะอาจสร้างความลำบากเดือดร้อนให้แก่ผู้เลี้ยงก็ได้
  14. อย่าสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ หมายถึง คืออย่าไปสอนผู้รู้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว
  15. อย่าสอนหนังสือสังฆราช หมายถึง คืออย่าไปสอนผู้รู้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว
  16. อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า หมายถึง อย่าใช้อำนาจบังคับอย่างหักโหมรุนแรง เพื่อให้ผู้อื่นทำตามความประสงค์ของตน เพราะนอกจากจะไม่สำเร็จแล้ว ตัวเองก็อาจเดือดร้อน
  17. อย่าเห็นขี้ดีกว่าไส้ หมายถึง อย่าเห็นผู้อื่นดีกว่าญาติพี่น้องลูกหลานของตน
  18. อย่าเอาจมูกคนอื่นหายใจ หมายถึง ต้องรู้จักช่วยตัวเอง อย่าคิดแต่จะพึงพาอาศัยคนอื่นเสมอไป ถ้าเราทำอะไรได้เองก็สะดวก แต่ถ้าต้องคอยอาศัยคนอื่นเขาร่ำไป ย่อมไม่ได้รับความสะดวก เหมือนคนมีรถยนต์แล้วขับไม่เป็น จะไปไหนทีก็ต้องพึ่งคนขับอยู่เรื่อย ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยเราก็ไปไม่ได้
  19. อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ หมายถึง พิมเสนเป็นของมีค่ามากกว่าเกลือ คืออย่าลดตัวลงไปสู้กับคนชั่วต่ำ มีแต่จะเสียศักดิ์ศรี เพราะไม่คู่ควรกัน
  20. อย่าเอามะพร้าวห้าวไปขายสวน หมายถึง จะไม่ได้ประโยชน์อะไร เขาจะหัวเราะเยาะได้ เพราะในสวนเขาก็มีมะพร้าวอยู่แล้ว หมายความว่า อย่าเอาสิ่งของหรืออะไรก็ตามแสดงต่อผู้ที่มีความรู้ความชำนาญในสิ่งนั้นเป็นที่ลือชาปรากฏอยู่แล้ว เพราะจะทำให้ดูเหมือนว่าตนเป็นคนโง่เขลา เบาปัญญา หรือเซ่อเซอะอะไรทำนองนั้น
  21. อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น หมายถึง เมื่ออยู่บ้านใคร อย่าอยู่เปล่า ควรทำการทำงานช่วยเหลือเขาเท่าที่จะทำได้ แม้เพียงเอาดินเหนียวมาปั้นวัวปั้นควายให้ลูกเจ้าของบ้านเล่นก็ยังดี เขาจะได้เมตตาสงสาร

ความหมายและคำอธิบายแบบเข้าใจง่าย

🔍 วิธีการอธิบายความหมาย

  • ความหมายตรง: อธิบายความหมายโดยตรงของสุภาษิต
  • ความหมายเปรียบเทียบ: การเปรียบเทียบกับสิ่งที่พบในชีวิตประจำวัน
  • ที่มาทางประวัติ: เล่าที่มาและเหตุผลของสุภาษิต

📝 โครงสร้างการอธิบาย

  1. สุภาษิต: "กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา"
  2. ความหมายตรง: ได้รับความเมตตาแต่ตอบแทนด้วยความชั่ว
  3. ความหมายเปรียบเทียบ: เหมือนการอยู่บ้านคนอื่นแล้วไม่รู้จักรักษาความสะอาด
  4. ที่มา: มาจากพฤติกรรมสัตว์เลี้ยงที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง

ตัวอย่างการใช้ในชีวิตประจำวัน

🎯 สถานการณ์ที่ใช้บ่อย

1. การทำงาน

สุภาษิต: "ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม"

  • การประชุมงาน: "เรื่องนี้สำคัญ เราควรค่อย ๆ พิจารณา ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม ดีกว่ารีบทำแล้วผิดพลาด"
  • การสอนงาน: "ไม่ต้องรีบร้อน ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม ค่อย ๆ เรียนรู้ไปนะ"

2. ความสัมพันธ์

สุภาษิต: "น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า"

  • การทำงานร่วมกัน: "เราต้องช่วยเหลือกัน น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า จึงจะประสบความสำเร็จ"
  • การอยู่ร่วมกันในสังคม: "ทุกคนต้องพึ่งพาอาศัยกัน เหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า"

เทคนิคการจำแบบไม่มีลืม

1. 🎵 เทคนิคการจำด้วยเสียง

  • จับคู่คำคล้องจอง
  • แต่งเป็นเพลงสั้น ๆ
  • สร้างจังหวะการท่อง

2. 🖼️ เทคนิคการจำด้วยภาพ

  • วาดภาพประกอบง่าย ๆ
  • สร้างการ์ตูนล้อเลียน
  • ทำแผนผังความคิด

3. 🎭 เทคนิคการจำด้วยเรื่องราว

  • เชื่อมโยงกับประสบการณ์ส่วนตัว
  • แต่งเรื่องสั้นจากสุภาษิต
  • สร้างสถานการณ์จำลอง

💡 เคล็ดลับการฝึกฝน

  1. ทบทวนสม่ำเสมอ ทุกวันละ 2-3 สำนวน
  2. ใช้ในการสนทนาจริง
  3. สร้างบัตรคำหรือโน้ตย่อ
  4. แบ่งปันความรู้กับผู้อื่น

รวบรวมสุภาษิตไทยมาให้ถึง 200 คำ ทั้งที่คุ้นหูและหายาก แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาบรรพบุรุษที่ถ่ายทอดข้อคิดผ่านถ้อยคำกระชับ คมคาย จนได้รับการบรรจุในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ทีมงาน Wordy Guru หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่าน ในการนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน หากท่านมีสำนวนสุภาษิตเพิ่มเติม สามารถแบ่งปันได้ในช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่าง

ชอบเนื้อหาชุดนี้ กดให้คะแนน 5 ดาวกับเราได้เลยจ้า
จำนวนผู้ให้คะแนน: 5   คะแนนเฉลี่ย: 4.2
Wordy Guru Team

เกี่ยวกับผู้เขียน: Wordy Guru Team

ทีม Wordy Guru คือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยที่ทุ่มเทในการให้ข้อมูลที่ครอบคลุมและถูกต้องเกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาไทย ทีมของเรามีนักภาษาศาสตร์ และบุคลากรทางการศึกษาที่มีประสบการณ์มายาวนาน