200 พุทธสุภาษิต ที่ใช้บ่อย ในชีวิตประจำวัน
คลังพุทธสุภาษิต รวบรวมคำที่เป็นที่นิยม ทั้งหมด 200 คำ
นี่คือเนื้อหาที่รวบรวม พุทธสุภาษิต ยอดนิยม คัดสรรมาให้แล้ว ไปดูรายละเอียดกันเลย!
พุทธสุภาษิตหมวด ก - ข
- การฝึกจิตที่ข่มยาก ที่เบา มักตกไปในอารมณ์ที่น่าใคร่ เป็นความดี, เพราะว่าจิตที่ฝึกแล้ว นำสุขมาให้
- การใฝ่ใจศึกษา เป็นเครื่องพัฒนาความรู้
- การพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ก่อให้เกิดทุกข์
- การไม่คบคนชั่วเป็นมิตร เป็นมงคลอันอุดมยิ่ง
- การเลือกให้ พระสุคตทรงสรรเสริญ
- การอยู่ร่วมกับคนพาลเป็นทุกข์ เหมือนอยู่ร่วมกับศัตรูตลอดเวลา
- กาลเวลาย่อมกลืนกินสรรพสัตว์ทั้งหลาย พร้อมกันไปกับตัวมันเอง
- ขึ้นชื่อว่าศิลปะ แม้เช่นใดเช่นหนึ่ง ก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้
พุทธสุภาษิตหมวด ค - ถ
- คนกล่าววาจาชั่วย่อมเดือดร้อน
- คนเกียจคร้าน ย่อมไม่พบความสุข
- คนเกียจคร้าน ย่อมไม่พบทางแห่งปัญญา
- คนเกียจคร้านย่อมไม่พบทางด้วยปัญญา
- คนโกรธย่อมฆ่าได้แม้มารดาของตน
- คนขยัน พึงไม่ให้ประโยชน์ที่มาถึงแล้วผ่านไปโดยเปล่า
- คนขยัน ย่อมหาทรัพย์ได้
- คนแข็งกระด้างก็มีเวร
- คนควรให้ของที่ควรให้
- คนโง่ คนพาล ไม่ควรเป็นผู้นำ
- คนโง่ ไม่ควรเป็นผู้นำ
- คนฉลาดกล่าวว่า ปัญญาประเสริฐ เหมือนพระจันทร์ ประเสริฐกว่าดาวทั้งหลาย แม้ศีลสิริและธรรมของสัตบุรุษย่อมไปตามผู้มีปัญญา
- คนดี ชอบช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น
- คนใดเป็นนักเลงหญิง นักเลงสุรา และนักเลงการพนัน ย่อมล้างผลาญทรัพย์ที่ตนได้แล้ว ๆ , ข้อนั้นเป็นเหตุแห่งผู้ฉิบหาย
- คนใดมีจิตไม่ท้อถอย มีใจไม่หดหู่ บำเพ็ญกุศลธรรมเพื่อบรรลุที่เกษมจากโยคะ พึงบรรลุธรรมเป็นที่สิ้นสังโยชน์ทั้งปวงได้
- คนทอดทิ้งกิจที่ควรทำ ไปทำกิจที่ไม่ควรทำ เมื่อเขาถือตัวมัวประมาท อาสวะย่อมเจริญ
- คนที่ผลัดวันประกันพรุ่งนี้ ย่อมเสื่อม ยิ่งผลัดวันมะรืนนี้ ก็ยิ่งเสื่อม
- คนที่เห็นแต่โทษผู้อื่น คอยแต่เพ่งโทษนั้น อาสวะก็เพิ่มพูน เขายังไกลจากความสิ้นอาสวะ
- คนผู้ทุศีลย่อมได้รับความติเตียน และ ความเสียชื่อเสียง ส่วนผู้มีศีลธรรม ได้รับชื่อเสียง และ ความยกย่องสรรเสริญทุกเมื่อ
- คนผู้มีสติ มีความเจริญทุกเมื่อ
- คนผู้สดับน้อยนี้ ย่อมแก่ไป เหมือนวัวแก่ อ้วนแต่เนื้อ แต่ปัญญาไม่เจริญ
- คนพูดไม่จริง ย่อมเข้าถึงนรก
- คนมักโกรธ ย่อมอยู่เป็นทุกข์
- คนมักทำบาปเพราะความหลง
- คนมีปัญญาดีไม่ประมาทในเมื่อผู้อื่นประมาท มักตื่นในเมื่อผู้อื่นหลับ ย่อมละทิ้งผู้ประมาท (คนโง่) เหมือนม้าฝีเท้าเร็ว ทิ้งม้าไม่มีกำลังไปฉะนั้น
- คนมีปัญญาทราม ได้ยศแล้ว ย่อมประพฤติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ตน ย่อมปฏิบัติ เพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่น
คำบาลี ยสํ ลทฺธาน ทุมฺเมโธ อนตฺถํ จรติ อตฺตโน อตฺตโน จ ปเรสญฺเจ หึสาย ปฏิปชฺชติ - คนมีปัญญาทำจิตที่ดิ้นรน กวัดแกว่ง รักษายาก ห้ามยาก ให้ตรงได้ เหมือนช่างศร ทำลูกศรให้ตรงได้ฉะนั้น
- คนมีสติ เป็นผู้ประเสริฐทุกวัน
- คนมีสติ ย่อมได้รับความสุข
- คนมีสันดานชั่ว ย่อมลำบากเพราะกรรมของตน
- คนไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก
- คนสะอาด ไม่ยินดีในความชั่ว
- คนห่อกฤษณาด้วยใบไม้ แม้ใบไม้ก็หอมไปด้วยฉันใด การคบกับนักปราชญ์ก็หอมไปด้วยฉันนั้น
- คนห่อปลาเน่าด้วยใบหญ้าคา แม้หญ้าคาก็พลอยเหม็นเน่าไปด้วยฉันใด การคบกับคนพาลก็เป็นคนพาลฉันนั้น
- คนเห็นแก่ตัว เป็นคนสกปรก
- คนอกตัญญูค่อยจับผิดอยู่เป็นนิตย์ ขะทำให้เขาพอใจไม่ได้ ถึงจะให้แผ่นดินทั้งหมดแก่เขา ผู้มีปกติมองหาโทษอยู่เสมอ ก็จะทำให้เขาพอใจไม่ได้
คำบาลี อกตัญญุสสะ โปสัสสะ นิจจัง วิวะระทัสสิโน สัพพัญเจ ปะฐะวิง ทัชชา เนวะ นัง อะภิราธะเยฯ - คบคนเช่นใด ก็เป็นคนเช่นนั้น
- คบคนเช่นใด ย่อมเป็นคนเช่นนั้น
- คบคนเช่นใดเป็นมิตร เขาก็เป็นคนเช่นนั้น เพราะการอยู่ร่วมกันย่อมเป็นเช่นนั้น
- ควรคบมิตรที่ดี
- ควรทำแต่ความเจริญ อย่าเบียดเบียนผู้อื่น
- ควรทำบุญอันนำสุขมาให้
- ควรระแวงในศัตรู แม้ในมิตรก็ไม่ควรไว้ใจ
- ควรระแวงภัยที่ควรระแวง พึงระวังภัยที่ยังไม่มาถึง ผู้ฉลาดย่อมมองดูโลกทั้ง 2 เพราะกลัวต่ออนาคต
- ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี
- ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี
- ความโกรธเป็นดังสนิมศัสตราในโลก
- ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง
- ความดี อันคนชั่วทำยาก
- ความดี อันคนดีทำง่าย
- ความเป็นสหายไม่มีในคนพาล
- ความพร้อมเพรียงของปวงชนผู้เป็นหมู่ ยังความเจริญให้สำเร็จ
- ความพร้อมเพรียงของหมู่คณะย่อมนำสุขมาให้
- ความมีปัญญา ย่อมรู้ได้จากการสนทนา
- ความไม่เบียดเบียนกันเป็นสุขในโลก
- ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ
- ความรักอื่น เสมอด้วยความรักตนเองไม่มี
- ความโลภเป็นอันตรายแห่งธรรมทั้งหลาย
- ความสันโดษเป็นทรัพย์อย่างยิ่ง
- ความสำรวมในที่ทั้งปวง เป็นดี ท่านว่าศีล เป็นความดี
- ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบไม่มี
- ความอดทน นำมาซึ่งประโยชน์สุข
- ความอดทน เป็นเครื่องประดับของนักปราชญ์
- ความอดทน เป็นตปะ (ตบะ) ของผู้พากเพียร
- ความอดทน ย่อมตัดแห่งบาปทั้งสิ้น ผู้มีขันติชื่อว่า ย่อมขุดรากแห่งความติเตียนและการทะเลาะกันได้ เป็นต้น
- ความอดทนเป็นเครื่องประดับของนักปราชญ์ ความอดทนเป็นตบะของผู้พากเพียร ความอดทนเป็นกำลังของนักพรต ความอดทนนำประโยชน์สุขมาให้
- ค่อย ๆ เก็บรวบรวมทรัพย์ ดังปลวกก่อจอมปลวก
- ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำ ดีกว่า
- จงเตือนตน ด้วยตนเอง
- จงเตือนตนด้วย ตนเอง
- จงมีความพยายามในหน้าที่ของตน
- จงสามัคคีมีน้ำใจต่อกัน
- จิตจอดอยู่กับใคร ถึงไกลกัน ก็เหมือนอยู่ชิดใกล้ ใจหมางเมินใคร ถึงใกล้กัน ก็เหมือนอยู่แสนไกล
- ชนะตนนั่นแหละ เป็นดี
- ชื่อว่าที่ลับ ไม่มีในโลก
- ดอกบัว เกิดและเจริญงอกงามในน้ำแต่ไม่ติดน้ำ ทั้งส่งกลิ่นหอม ชื่นชูใจให้รื่นรมย์ฉันใด พระพุทธเจ้าทรงเกิดในโลก และอยู่ในโลก แต่ไม่ติดโลก เหมือนบัวไม่ติดน้ำฉันนั้น
- ได้ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ นินทา สรรเสริญ สุข และ ทุกข์ สิ่งเหล่านี้เป็นธรรมดาในหมู่มนุษย์ไม่มีความเที่ยงแม้แน่นอน อย่าเศร้าโศกเลย ท่านจะโศกเศร้าไปทำไม
- ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
- ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล คนเขลายังเข้าใจว่ามีรสหวาน แต่บาปให้ผลเมื่อใด คนเขลาย่อมประสบทุกข์เมื่อนั้น
- ถ้าคนพึงทำบาป ก็ไม่ควรทำบาปนั้นบ่อย ๆ ไม่ควรทำความพอใจในบาปนั้น เพราะการสั่งสมบาปนำทุกข์มาให้
- ถ้าประสบสุขทุกข์ เพราะบุญบาปที่ทำไว้ก่อนเป็นเหตุ ชื่อว่าเปลื้องบาปเก่าที่ทำไว้ ดุจเปลื้องหนี้ฉะนั้น
- ถ้าพึงเห็นสุขอันไพบูลย์ เพราะยอมเสียสละสุขส่วนน้อย ผู้มีปัญญาเล็งเห็นสุขอันไพบูลย์ ก็ควรสละสุขส่วนน้อยเสีย
- ถ้าสอนผู้อื่นฉันใด พึ่งทำตนฉันนั้น ผู้ฝึกตนดีแล้ว ควรฝึกผู้อื่น ได้ยินว่าตนแลฝึกยาก
- ถึงสิ้นทรัพย์ ผู้มีปัญญาก็เป็นอยู่ได้, แต่อับปัญญา แม้มีทรัพย์ก็เป็นอยู่ไม่ได้
พุทธสุภาษิตหมวด ท - ป
- ทั้งคนมี ทั้งคนจน ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า
- ท่านทั้งหลาย จงยินดีในความไม่ประมาท คอยรักษาจิตของตน จงถอนตนขึ้นจากหล่ม เหมือนช้างที่ตกหล่มถอนตนขึ้นฉะนั้น
- ท่านทั้งหลายจงเห็นความเกียจคร้านว่าเป็นภัย และ เห็นการปรารภความเพียรว่าปลอดภัย แล้วปรารภความเพียรเถิด นี้เป็นพุทธานุศาสนี
- ท่านทั้งหลายต้องทำความเพียรเอง ตถาคตเป็นแต่ผู้บอก ผู้มีปกติเพ่งพินิจดำเนินไปแล้วจักพ้นจากเครื่องผูกของมาร
- ท่านว่า ทานและการรบ เสมอกัน
- ทำกรรมใดแล้วร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำแล้วนั้นไม่ดี
- ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
- ทำไม่ได้ อย่าพูด
- ทุกข์เท่านั้นเกิดขึ้น ทุกข์ย่อมตั้งอยู่ และเสื่อมไป นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ
- โทษคนอื่น เห็นง่าย แต่โทษตนเองเห็นยาก
- บัณฑิต ไม่ควรท้อแท้
- บัณฑิตพึงตั้งตนไว้ในคุณอันสมควรก่อน แล้วจึงสอนผู้อื่นภายหลัง จึงไม่มัวหมอง
- บัณฑิตพึงทำความเป็นเพื่อนกับคนมีศรัทธา มีศีลเป็นที่รัก มีปัญญาและเป็นพหุสูต เพราะการสมาคมกับคนดีเป็นความเจริญ
- บัณฑิตไม่ควรทำความเป็นเพื่อนกับคนส่อเสียด คนมักโกรธ คนตระหนี่ และคนเพลิดเพลินในสมบัติ เพราะการสมาคมกับคนชั่ว เป็นความเลวทราม
- บัณฑิตไม่พึงคบอสัตบุรุษ พึงคบแต่สัตบุรุษ เพราะอสัตบุรุษย่อมนำไปสู่นรก สัตบุรุษย่อมนำไปสู่สุคติ
- บัณฑิตย่อมบันเทิงในความไม่ประมาท
- บัณฑิตย่อมฝึกตน
- บัณฑิตย่อมไม่แสดงอาการขึ้นลง
- บัณฑิตย่อมสรรเสริญความไม่ประมาท
- บาปกรรม ที่ทำแล้วย่อมไม่มีเปลี่ยนแปลง เหมือนนมสดที่รีดในวันนั้น, บาปย่อมตามเผาคนเขลา เหมือนไฟที่เถ้ากลบไว้
- บาปไม่มี แก่ผู้ไม่ทำ
- บุคคลควรเตือนกัน ควรสอนกัน และ ป้องกันจากคนไม่ดี เพราะเขาย่อมเป็นที่รักของคนดี แต่ไม่เป็นที่รักของคนไม่ดี
- บุคคลทำสิ่งใดควรพูดสิ่งนั้น ไม่ทำสิ่งใดไม่ควรพูดสิ่งนั้น บัณฑิตย่อมกำหนดรู้คนที่ไม่ทำ ได้แต่พูด
- บุคคลไม่ควรลืมตน
- บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว
- บุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ ในโลกหน้า
- ประโยชน์ทั้งหลาย ย่อมล่วงเลยคนผู้ทอดทิ้งการงาน ด้วยอ้างว่าหนาวนัก ร้อนนัก เย็นเสียแล้ว
- ปราชญ์ พึงรักษาศีล
คำบาลี สีลํ รกฺเขยฺย เมธาวี - ปราชญ์ผู้ให้ความสุข ย่อมได้รับความสุข
- ปัญญา เปรียบเสมือนเครื่องประดับแห่งตน
- ปัญญา ย่อมเกิดเพราะการฝึกฝน
- ปัญญาประเสริฐกว่าทรัพย์
- เปล่งวาจางามยังประโยชน์ให้สำเร็จ
พุทธสุภาษิตหมวด ผ - ม
- ผู้เกลียดธรรม เป็นผู้เสื่อม
- ผู้ขยันในหน้าที่การงาน ไม่ประมาท เข้าใจจัดการงาน เลี้ยงชีวิตพอสมควร จึงรักษาทรัพย์ที่หามาได้
- ผู้คบคนชั่ว ย่อมถึงความสุขโดยส่วนเดียวไม่ได้ เขาย่อมยังตนให้ประสบโทษ เหมือนกิ้งก่าเข้าฝูงเหี้ยฉะนั้น
- ผู้เคารพผู้อื่น ย่อมมีความเคารพตนเอง
- ผู้ชอบธรรม เป็นผู้เจริญ
- ผู้ใด อันผู้อื่นทำความดี ทำประโยชน์ให้ในกาลก่อนย่อมสำนึก (คุณของเขา) ได้ ประโยชน์ที่ผู้นั้นปรารถนาย่อมเจริญ
- ผู้ใดเกียจคร้าน มีความเพียรเลว พึงเป็นอยู่ตั้งร้อยปี แต่ผู้ปรารถนาความเพียรมั่นคง มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียว ประเสริฐกว่าผู้นั้น
- ผู้ใดทำกรรมชั่ว ล่อลวงเอาทรัพย์พี่น้อง พ่อแม่ ผู้นั้นมีจิตชั่วร้าย ย่อมไม่มีความเจริญ แม้เทวดาก็ไม่บูชาเขา
- ผู้ใดทำกรรมชั่วแล้ว ละเสียได้ ด้วยกรรมดี ผู้นั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง เหมือนพระจันทร์พ้นจากเมฆหมอกฉะนั้น
- ผู้ใดมีความไร้ศีลธรรมครอบคลุม เหมือนย่านทรายคลุมไม้สาละ ผู้นั้นชื่อว่าทำตนเหมือนถูกผู้ร้ายคุมตัว
- ผู้ใดมีปัญญาทราม มีใจไม่มั่นคง พึงเป็นอยู่ตั้งร้อยปี ส่วนผู้มีปัญญาเพ่งพินิจ มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียว ประเสริฐกว่า
- ผู้ตั้งใจศึกษา ย่อมได้ปัญญา
- ผู้ถึงพร้อมด้วยศีล มีปัญญา มีใจมั่นคงดีแล้วปรารภความเพียร ตั้งตนไว้ในธรรม ในกาลทุกเมื่อ ย่อมข้ามโอฆะที่ข้ามได้ยาก
- ผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นคนเลวแท้
- ผู้ประมาท เหมือนคนตายแล้ว
- ผู้มีจิตสงบ มีปัญญาเครื่องรักษาตัว มีสติ เป็นผู้เพ่งพินิจ ไม่เยื่อใยในกาม ย่อมเห็นธรรมโดยชอบ
- ผู้มีจิตอันไม่ชุ่มด้วยราคะ มีใจอันโทสะไม่กระทบแล้ว มีบุญและบาปอันละได้แล้ว ตื่นอยู่ ย่อมไม่มีภัย
- ผู้มีตน ฝึกตนดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่งซึ่งได้ยาก
- ผู้มีปัญญา ถึงพร้อมด้วยความรู้ ฉลาดในวิธีจัดการงาน รู้กาลและรู้สมัย เขาพึงอยู่ในราชการได้
- ผู้มีปัญญา พึงรักษาจิตที่เห็นได้ยากนัก ละเอียดนัก มักตกไปในอารมณ์ที่น่าใคร่, เพราะว่าจิตที่คุ้มครองแล้วนำสุขมาให้
- ผู้มีปัญญาทราม มีจิตใจกระด้าง ถึงฟังคำสอนของพระชินเจ้า ก็ยังห่างไกลจากพระสัทธรรม เหมือนดินกับฟ้า
- ผู้มีศีลย่อมได้มิตรมาก ด้วยความสำรวม ส่วนผู้ไม่มีศีล ประพฤติชั่ว ย่อมแตกจากมิตร
- ผู้ไม่ประมาท ย่อมไม่ตาย
- ผู้หมั่นในการงาน ไม่ประมาท เป็นผู้รอบคอบ จัดการงานเรียบร้อย จึงควรอยู่ในราชการ
คำบาลี อุฏฺฐาตา กมฺมเธยฺเยสุ อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ สุสํวิหิตกมฺมนฺโต ส ราชวสตึ วเส - ผู้ให้ ย่อมผูกไมตรีไว้ได้
- ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก คนหมู่มากย่อมคบเขา
- ผู้ให้สิ่งที่เลิศ ย่อมได้สิ่งที่เลิศอีก
- ผู้ให้สิ่งที่เลิศ ให้สิ่งที่ดี ให้สิ่งที่ประเสริฐ ย่อมเป็นผู้มีอายุยืน มียศในภพที่ตนเกิด
- ผู้ให้สิ่งประเสริฐ ย่อมถึงฐานะที่ประเสริฐ
- ผู้ไหว้ ย่อมได้รับการไหว้ตอบ
- ฝนย่อมรั่วรดเรือนที่มุงไม่ดีฉันใด, ราคะย่อมรั่วรดจิตที่ไม่ได้อบรมฉันนั้น
- พึงขวนขวายในเป้าหมายของตน
- พึงชนะคนโกรธ ด้วยความไม่โกรธ
- พึงชนะคนโกรธด้วยความไม่โกรธ
- พึงชนะคนพูดปดด้วยคำจริง
- พึงชนะคนไม่ดีด้วยความดี
- พึงตัดความโกรธด้วยความข่มใจ
- พึงรักษาความดีของคนไว้ ดังเกลือรักษาความเค็ม
- พึงละเว้นบาปทั้งหลาย
- พึงศึกษาความสามัคคี ความสามัคคีนั้น ท่านผู้รู้ทั้งหลาย สรรญเสริญแล้ว ผู้ยินดีในสามัคคี ตั้งอยู่ในธรรม ย่อมไม่คลาดจากธรรมอันเกษมจากโยคะ
- พูดอย่างไร ทำได้อย่างนั้น
- เพราะความไว้ใจภัยจึงตามมา
- ฟังด้วยดี ย่อมได้ปัญญา
- ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงเป็นผู้ไม่ประมาท มีสติ มีศีลดีงาม ตั้งความดำริไว้ให้ดี คอยรักษาจิตใจของตน
- มีมิตรเลวมีเพื่อนเลว ย่อมมีมารยาทเลวและที่เที่ยวเลว
- มีศัตรูเป็นบัณฑิต ดีกว่ามีมิตรเป็นคนพาล
- เมตตา เป็นเครื่องค้ำจุนโลก
- เมื่อคนโง่มีปัญญาทราม ทำกรรมชั่วอยู่ก็ไม่รู้สึก เขาเดือดร้อนเพราะกรรมของตน เหมือนถูกไฟไหม้
- เมื่อคอยระวังอยู่ เวรย่อมไม่ก่อขึ้น
- เมื่อผู้อื่นทำความดีให้ ทำประโยชน์ให้ก่อน แต่เราไม่สำนึกบุญคุณ เมื่อมีกิจเกิดขึ้นภายหลัง จะหาผู้ช่วยทำไม่ได้
- เมื่อมีจิตไม่มั่นคง ไม่รู้พระสัทธรรม มีความเลื่อมใสเลื่อนลอย ปัญญาย่อมไม่บริบูรณ์
- เมื่อให้ บุญก็เพิ่มขึ้น
- ไม่ควรทำบาป เพราะเห็นแก่กิน
- ไม่ควรเสพธรรมที่เลว ไม่ควรอยู่กับความประมาท ไม่ควรเสพมิจฉาทิฏฐิ ไม่ควรเป็นคนรกโลก
พุทธสุภาษิตหมวด ย - อ
- ยศย่อมเจริญแก่ผู้มีความหมั่น มีสติ มีการงานสะอาด ใคร่ครวญแล้วทำ ระวังดีแล้ว เป็นอยู่โดยธรรม และไม่ประมาท
- โลภะ โทสะ โมหะ เกิดจากตัวเอง ย่อมเบียดเบียนผู้มีใจชั่ว ดุจขุยไผ่ฆ่าต้นไผ่ฉะนั้น
- วันคืนย่อมล่วงไป ชีวิตย่อมหมดเข้าไป อายุของสัตว์ ย่อมสิ่นไป เหมือนน้ำแห่งแม่น้ำน้อย ๆ ฉะนั้น
- เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
- ศีล พึงรู้ได้ด้วยการอยู่ร่วมกัน
- ศีลยังประโยชน์ให้สำเร็จตราบเท่าชรา
- สติ เป็นธรรมเครื่องตื่นอยู่ในโลก
- สังขาร เป็นทุกข์อย่างยิ่ง
- สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยงหนอ
- สัตว์ทั้งปวง หวาดต่ออาญา ล้วนกลัวต่อความตาย ควรทำตนให้เป็นอุปมาล้าไม่ฆ่าเขาเอง ไม่พึงให้ผู้อื่นฆ่า
- สัตว์ทั้งหลายย่อมต้องการความสุข ผู้ใดแสวงหาสุขเพื่อตน ไม่เบียดเบียนเขาด้วยอาชญา ผู้นั้นละไปแล้ว ย่อมได้สุข
- สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
- สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
- ห้วงน้ำที่เต็ม ย่อมยังสาครให้เต็มได้ฉันใด, ทานที่ให้แต่โลกนี้ ย่อมสำเร็จแก่ผู้ละไปแล้วฉันนั้น
- เหย้าเรือนที่ปกครองไม่ดี นำทุกข์มาให้
- อย่าปล่อยกาลเวลาให้ล่วงไปโดยเปล่าประโยชน์
- อย่ารำพึงถึงความหลัง อย่ามัวหวังถึงอนาคต
- อยู่ร่วมกับคนชั่ว ย่อมมีแต่ความทุกข์
- อยู่ร่วมกับปราชญ์นำสุขมาให้ เหมือนสมาคมกับญาติ
- อริยมรรคย่อมบริสุทธิ์ เมื่อขับไล่ความหลับ ความเกียจคร้าน ความบิดขี้เกียจ ความไม่ยินดี และ ความเมาอาหารนั้นได้ด้วยความเพียร
- อ่อนไป ก็ถูกเขาหมิ่น แข็งไป ก็มีภัยเวร
คิดว่าน่าจะเต็มอิ่มกับพุทธสุภาษิตทั้ง 200 คำกันไปแล้วเนอะ หวังว่าน่าจะพอมีประโยชน์ให้นำไปใช้ต่อในชีวิตประจำวันกัน
หากยังไม่เจอคำไหน หรือคิดว่ามีตกหล่นไป สามารถแจ้งแนะนำกันเข้ามาได้เลยค่ะ