รวมสุดยอดสุภาษิตไทยที่ควรรู้! พร้อมความหมายและตัวอย่างการใช้งานจริง ✨

สุภาษิต คำพังเพย และสำนวนไทย คือมรดกทางภาษาที่บรรพบุรุษส่งต่อมาถึงพวกเราชาวไทย นอกจากจะมีความไพเราะทางภาษาแล้ว ยังแฝงไปด้วยคำสอนและข้อคิดที่มีค่า

สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้:

  • ✅ ความแตกต่างของคำสุภาษิตและกลุ่มคำที่ใกล้เคียง
  • ✅ รวมสุภาษิตยอดนิยม 100 คำ
  • ✅ ความหมายและคำอธิบายแบบเข้าใจง่าย
  • ✅ ตัวอย่างการใช้ในชีวิตประจำวัน
  • ✅ เทคนิคการจำแบบไม่มีลืม

🌟 สำนวนไทย คำสุภาษิต และคำพังเพย: เข้าใจความต่างใน 5 นาที!

ก่อนจะไปเรียนรู้สำนวนไทยกมาทำความรู้จักกับ "สำนวนไทย สุภาษิต และคำพังเพย" กันให้ชัด ๆ 📚

ก่อนจะไปดูตัวอย่างสำนวนไทยยอดฮิตทั้ง 100 คำ เรามาทำความเข้าใจก่อนดีกว่าว่า สำนวน สุภาษิต และคำพังเพยนั้นแตกต่างกันอย่างไร มีที่มาที่ไปยังไง และใช้ในสถานการณ์แบบไหน 🤔

1. คำสุภาษิต สอนใจแบบไทย ๆ 🏆

แบบเข้าใจง่าย:

  • "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น"
  • "รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา"

แบบต้องตีความ:

  • "กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้"
  • "ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม"

2. สำนวนไทย เปรียบเทียบได้กินใจ 🎯

  • "หัวล้านนั่งบังเยียด" (คนไม่มีความสามารถแต่ขวางทางคนอื่น)
  • "ขมิ้นกับปูน" (คู่อริที่เข้ากันไม่ได้)
  • "เกลือเป็นหนอน" (คนใกล้ชิดที่คอยทำร้าย)

3. คำพังเพย พูดเปรียบเปรยสไตล์ไทย 🗣

  • "รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง"
  • "เห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง"
  • "น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย"

4. คำคมแบบไทย ๆ คิดปุ๊บพูดปั๊บ ✨

  • "คนเราจะล้มเหลวหรือสำเร็จ อยู่ที่กำลังใจ"
  • "ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด"
  • "รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา"

5. คำขวัญ สร้างแรงบันดาลใจ 🌟

  • "เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า"
  • "กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง เมืองศูนย์กลางการปกครอง"

💡 Tips:

การใช้สำนวนไทยให้ถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ จะช่วยให้การสื่อสารมีสีสัน น่าสนใจ และทรงพลังมากขึ้น!


รวมสํานวนสุภาษิตยอดนิยม 100 สำนวน

รวมคําสุภาษิต 100 คํา ที่นิยมใช้ พร้อมความหมายแฝงคติเตือนใจ รวมสำนวนไทย คำสุภาษิต คำพังเพย

  1. กระต่ายตื่นตูม หมายถึง คนที่แสดงอาการตื่นตกใจง่ายโดยไม่ทันสำรวจให้ถ่องแท้ก่อน
  2. กลัวให้ถูกท่า กล้าให้ถูกที่ ดีให้ถูกทาง หมายถึง ทำอะไรก็ต้องให้ถูกกาลเทศะ
  3. กินบนเรือนแล้วขี้รดหลังคา หมายถึง เนรคุณ
  4. กินปูนร้อนท้อง หมายถึง ทำผิดแล้วมักออกตัว, แสดงพิรุธ
  5. เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน หมายถึง ถึงจะทำงานเล็กใหญ่ หรือค้าขายอะไรก็ตาม ก็พยายามค่อย ๆ ทำให้ดีขึ้นแม้เล็กน้อย ๆ เมื่อรวมกันและใช้เวลาก็จะทำให้การงานนั้นเห็นผลเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้
  6. ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง หมายถึง ความสวยงามเกิดขึ้นได้จากการปรุงแต่ง
  7. ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ หมายถึง ต่างฝ่ายต่างรู้ความลับของกันและกัน
  8. ขิงก็ราข่าก็แรง หมายถึง ต่างคนต่างแรง ไม่ยอมกัน เรื่องเล็กก็เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ไป เพราะทิฐิมานะ
  9. เข็นครกขึ้นภูเขา หมายถึง ทำงานที่ยากลำบากต้องใช้ความเพียรพยายามและอดทนมาก
  10. เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม หมายถึง ประพฤติให้ถูกต้องตามกาลเทศะ เมื่อไปอยู่ในพวกเขาแล้ว ก็ต้องประพฤติคล้อยตามเขา
  11. เขียนเสือให้วัวกลัว หมายถึง ขู่ให้กลัว
  12. คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ หมายถึง คนดีไปที่ไหนก็มีคนอยากคบหาสมาคมด้วย ไม่ลำบาก
  13. คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลับมาได้ หมายถึง ทำงานเป็นทีมจะให้สถานการณ์ที่ดีกว่า
  14. คนรักเท่าผืนหนังคนชังเท่าผืนเสื่อ หมายถึง จำนวนคนที่รักเราย่อมมีน้อยกว่าคนที่เกลียดเรา เป็นเรื่องปกติ
  15. คบคนดีมีศรีแก่ตัว คบคนชั่วอัปราชัย หมายถึง การมีเพื่อนที่ดีหรือการคบคนดี ย่อมเป็นประโยชน์แก่ตัวเราเอง แต่ถ้าเรามีเพื่อนไม่ดีเรียกว่า คบคนชั่ว เพื่อนก็จะนำแต่ความชั่ว ความอัปราชัย ความพ่ายแพ้มาให้เรา
  16. คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล หมายถึง คบใครก็จะเป็นคนอย่างนั้น
  17. คบคนให้ดูหน้าซื้อผ้าให้ดูเนื้อ หมายถึง ก่อนคบค้าสมาคมกับใคร ดูที่มาที่ไปให้ดี ๆ
  18. ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี หมายถึง มีความสำนึกในความดีของสิ่งหรือบุคคลที่มีพระคุณต่อเรา
  19. ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด หมายถึง มีความรู้ แต่ไม่ใช้ความรู้ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร
  20. คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก หมายถึง ที่อยู่อาศัย แม้จะคับแคบเพียงใด ถ้ารู้จักทำให้ดี ก็น่าอยู่ แต่ถ้าหากมีความคับอกคับใจแล้ว แม้ที่จะกว้างขวางใหญ่โต ก็มิได้ทำให้สบายอกสบายใจเลย มีแต่จะรู้สึกอึดอัดใจแต่ถ่ายเดียว
  21. คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล หมายถึง อย่าประมาททะเล แค่คืบแค่ศอกก็ทะเล ตกไปก็มีหวังจมน้ำตายทั้งนั้น
  22. ฆ่าควายก็ต้องไม่เสียดายพริก หมายถึง ถ้าคิดจะทำงานใหญ่ทั้งที ก็ต้องไม่กลัวหมดเปลือง
  23. ฆ่าช้างจะเอางา คนเจรจาจะเอาถ้อยคำ หมายถึง ที่เขาฆ่าช้างก็เพราะเขาหวังจะเอางาซึ่งมีราคาแพง เมื่อคนเราเจรจากัน ถ้อยคำหรือคำพูดถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ควรจะเป็นคำพูดที่มีความจริงใจ เชื่อถือได้
  24. จับปลาสองมือ หมายถึง การที่คน ๆ หนึ่งทำสิ่งใดที่ยากพร้อม ๆ กัน ทำให้ล้มเหลวทั้งสองสิ่งนั้น
  25. ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน หมายถึง ชีวิตคนเราเอาแน่นอนอะไรไม่ได้ เดี๋ยวรุ่งเรือง เดี๋ยวตกอับ ดังนั้นเมื่อถึงคราวตกอับ ก็อย่าเพิ่งท้อถอย หรือหมดอาลัยในชีวิต และเมื่อถึงคราวรุ่งเรือง มีอำนาจวาสนา ก็อย่าลืมตัว อย่าประมาท
  26. ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ หมายถึง ใครจะเป็นอะไรก็ช่าง ไม่ควรถือเอาเป็นธุระ
  27. ช้า ๆ ได้พร้าสองเล่มงาม ด่วนได้สามผลามมักพลิกแพลง หมายถึง จะทำอะไรก็ทำอย่างมีสติ รอบคอบ แม้จะช้าไปบ้างก็ได้ผลดี แต่ถ้าทำอย่างรีบร้อน ไม่พินิจพิเคราะห์ให้ดีก่อน อาจผิดพลาดเสียหายได้ง่าย
  28. ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิด หมายถึง คนที่ทำความชั่วไว้มากมาย ถึงจะปิดอย่างไร ๆ ก็ปิดไม่หมด คนย่อมรู้เข้าจนได้
  29. ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่า เมียรัก อย่าได้ไว้วางใจ หมายถึง บุคคลที่ใกล้ชิด ย่อมรู้เรื่องราวและความลับของเราหมด บุคคลประเภทนี้ ถ้ากลับกลายเป็นศัตรูแล้วจะเป็นศัตรูที่ร้ายที่สุด ดังนั้นจึงไม่ควรไว้วางใจจนเกินไป
  30. ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ หมายถึง ลูกผู้ชายที่ชื่อว่าตนมีความเก่งกล้าสามารถ จะต้องสำแดงวิชาความรู้และความสามารถให้ลือชาปรากฏแก่คนทั่วไป
  31. ดูช้างให้ดูหน้าหนาว ดูสาวให้ดูหน้าร้อน หมายถึง หน้าหนาวช้างจะตกมัน จะเห็นความห้าวหาญดุดัน พอหน้าร้อนอากาศอ้าว ผู้หญิงก็ใช้ผ้าน้อยชิ้น หรือผ้าบาง ๆ ทำให้มองเห็นรูปร่างทรวดทรงและผิวพรรณของผู้หญิง
  32. ดูวัวให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ ถ้าจะดูให้แน่ต้องดูถึงย่าถึงยาย หมายถึง วัวที่มีลักษณะดีนั้นให้ดูที่หาง การที่จะเลือกผู้หญิงมาเป็นคู่ครอง ต้องดูไปจนถึงแม่ด้วย เพราะลูกกับแม่ก็มักจะมีลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกัน
  33. ตบมือข้างเดียวไม่ดัง หมายถึง ทำอะไรฝ่ายเดียวไม่เกิดผล
  34. ต่อหน้ามะพลับลับหลังตะโก หมายถึง ต่อหน้าทำอย่างหนึ่ง ลับหลังทำอีกอย่างหนึ่ง แบบหน้าไหว้ หลังหลอก
  35. ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา หมายถึง ให้รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวไว้บ้าง
  36. ตักบาตรอย่าถามพระ หมายถึง จะให้อะไรแก่ใคร เมื่อทราบว่าเขาเต็มใจรับอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องถามว่าจะเอาไหม
  37. ตามใจปากมากหนี้ หมายถึง เห็นแก่กินย่อมสิ้นเปลืองมาก
  38. ถ้าไม่มีไฟ ที่ไหนจะมีควัน หมายถึง เมื่อมีผลออกมา มันต้องมีเหตุแน่ ๆ
  39. ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดตาเล็น หมายถึง ทำอะไรดูเหมือนจะละเอียดถี่ถ้วนดี แต่ความจริงแล้วไม่รอบคอบ หรือบางทีก็ดูเหมือนจะใช้สอยอย่างกระเหม็ดกระแหม่ในบางเรื่องแต่อีกเรื่องหนึ่งกลับสุรุ่ยสุร่าย
  40. นอนสูงให้นอนคว่ำ นอนต่ำให้นอนหงาย หมายถึง เมื่อนอนในที่สูง ถ้านอนคว่ำ อะไรผ่านไปผ่านมาข้างล่างก็มองเห็นหมด และเมื่อนอนในที่ต่ำ ถ้านอนหงาย อะไรผ่านไปผ่านมาข้างบนก็มองเห็นหมด
  41. นายว่า ขี้ข้าพลอย หมายถึง ลักษณะของคนเลว ไร้ความรู้ ถ้าเจ้านายว่าอย่างไร ก็มักจะพลอยประสมโรงซ้ำเติมด้วย
  42. น้ำขึ้นให้รีบตัก หมายถึง เมื่อเวลามีบุญมีวาสนา อย่างจะทำความดีอะไรก็รีบทำ ๆ เสีย
  43. น้ำเชี่ยว อย่าขวางเรือ หมายถึง เมื่อมีเหตุการณ์รุนแรงอะไรเกิดขึ้น ก็อย่าไปขัดขวาง จะได้รับอันตราย
  44. น้ำท่วมปาก หมายถึง การรู้อะไรแล้วพูดไม่ได้ เพราะมีความจำเป็นบางอย่าง
  45. น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า หมายถึง ทุกคนต้องพึ่งพาอาศัยกัน ต้องเห็นอกเห็นใจกัน จึงควรผูกไมตรีกันไว้
  46. น้ำลึกหยั่งได้ น้ำใจหยั่งยาก หมายถึง น้ำลึกเป็นเรื่องรูปธรรม เราหาวัตถุมาวัดได้ แต่น้ำใจเป็นเรื่องนามธรรม ไม่มีเครื่องวัด
  47. เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ หมายถึง ทั้ง ๆ ที่ตนไม่มีส่วนได้เป็นผลประโยชน์กับเขาเลย แต่ก็พลอยเข้าไปพัวพันในเรื่องร้าย ทำให้ต้องพลอยรับบาปรับเคราะห์เสียหายไปกับเขาด้วย
  48. บุญมา ปัญญาช่วย ที่ป่วยก็หาย ที่หน่ายก็รัก หมายถึง เวลาที่โชคดี อะไร ๆ ก็มีผลปรากฎที่ดีไปทุกอย่าง
  49. ปลาข้องเดียวกัน ตัวหนึ่งเน่า ก็พาตัวอื่นพลอยเหม็นไปด้วย หมายถึง คนที่อยู่ร่วมกัน ถ้าคนหนึ่งไปทำชั่ว ทำไม่ดีไว้ ก็จะพลอยทำให้คนอื่นเสียหายไปด้วย
  50. ปลาหมอตายเพราะปาก หมายถึง คนที่ชอบพูดอะไรพล่อย ๆ มักจะได้รับอันตรายเพราะปากที่พูดพล่อย ๆ นั้น
  51. ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ต้องตามใจผู้นอน หมายถึง จะทำอะไรก็ต้องตามใจผู้ที่จะได้รับผล
  52. ปากคนยาวกว่าปากกา หมายถึง ปากคนนั้นพูดเล่าลือต่อปากกันไปได้ไกล
  53. ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ชั่วดีเป็นตรา หมายถึง คนพูดเก่งพูดเป็นมีแต้มต่อกว่าความรู้เพียงอย่างเดียว
  54. ไปไหนมาสามวาสองศอก หมายถึง ถามอย่างหนึ่ง แต่ตอบอีกอย่างหนึ่ง
  55. พูดไปสองไพเบี้ยนิ่งเสียตำลึงทอง หมายถึง คำพูดบางครั้งหากพูดออกไปอาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อตนเองหรือคนรอบข้าง หากอยู่เฉย ๆ ไม่พูดอะไรออกไปยังจะก่อเกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่า
  56. มะนาวไม่มีน้ำ หมายถึง พูดห้าว ๆ หรือ พูดไม่มีหางเสียง
  57. มีเงินเขานับว่าเป็นน้อง มีทองเขานับว่าเป็นพี่ หมายถึง เมื่อมั่งมีเงินมีทองแล้ว ใคร ๆ ก็ประจบอยากเข้ามาเป็นญาติพี่น้องด้วย
  58. มีเงินมีทองเจรจาได้ มีไม้มีไร่ปลูกเรือนงาม หมายถึง ถ้ามีเงินมีทองแล้วจะพูดอะไรก็มักจะสำเร็จ ถ้ามีไม้มีที่แล้ว ก็ย่อมปลูกเรือนได้สวยงาม
  59. ไม้ล้มข้ามได้ คนล้มอย่าเพิ่งข้าม หมายถึง ไม้ล้มข้ามไปไม่มีอันตรายอะไร แต่คนที่เคยมีอำนาจวาสนา แล้วหมดอำนาจ อย่าไปซ้ำเติมเขา เพราะเขาอาจกลับมามีอำนาจอีกได้
  60. ไม่เห็นน้ำ อย่าเพิ่งตัดกระบอก ไม่เห็นกระรอก อย่าเพิ่งโก่งหน้าไม้ หมายถึง อย่าด่วนทำอะไรล่วงหน้า โดยที่ยังไม่ทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในภายหน้า จะเหนื่อยเปล่า
  61. ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก หมายถึง จะอบรมสั่งสอนอะไรก็ทำเสียตั้งแต่เด็ก เพราะอบรมสั่งสอนง่าย จะสอนให้เป็นอะไรก็ได้ ส่วนคนแก่นั้นสอนยาก
  62. รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี หมายถึง วัวถ้าไม่ผูกไว้ ก็อาจหายได้ ถ้าลูกดื้อ พ่อแม่ก็ต้องดุต้องตีบ้าง
  63. รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม หมายถึง การศึกษาหาความรู้ไว้ ยิ่งมากยิ่งดี เพราะการมีความรู้มาก ไม่เหมือนการแบกข้าวแบกของ ซึ่งจะรู้สึกว่าหนักบ่า
  64. รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง หมายถึง รู้จักเอาตัวรอดหรือปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์
  65. เรือล่มในหนองทองจะไปไหน หมายถึง เมื่อจะต้องสูญเสียอะไรไปอย่างไม่มีทางที่จะสูญเปล่า ก็ไม่ต้องวิตกทุกข์ร้อนอะไร
  66. เล่นกับหมา หมาเลียปาก เล่นกับสาก สากต่อยหัว หมายถึง ถ้าลดตัวไปเล่นหัวกับคนชั้นต่ำกว่า เขาก็อาจตีเสมอทำลวนลามเอา
  67. เลือกนักมักได้แร่ หมายถึง เลือกไปเลือกมา ในที่สุดมักจะไปได้ที่ไม่ดี
  68. โลภมาก ลาภหาย หมายถึง โลภมากเกินไป ในที่สุดจะไม่ได้อะไรเลย
  69. วัวใครก็เข้าคอกคนนั้น หมายถึง ส่วนของใครก็เป็นของคนนั้น ไม่ก้าวก่ายหรือก้ำเกินในผลประโยชน์ของกันและกัน
  70. วัวสันหลังขาด เห็นกาบินผาดก็ตกใจ หมายถึง คนที่มีความผิดติดตัว มักจะมีพิรุธ มีอาการหวาดระแวงอยู่เสมอ กลัวคนอื่นจะรู้
  71. วัวหายแล้วจึงล้อมคอก หมายถึง เมื่อเกิดเสียหายขึ้นมาแล้วจึงหาทางป้องกันในภายหลัง
  72. วัวเห็นแก่หญ้าขี้ข้าเห็นแก่กิน หมายถึง คนที่เห็นแก่ได้ เห็นแก่กิน และเกียจคร้าน
  73. ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง หมายถึง พูดว่าคนอื่นอย่างไร ตนเองก็กลับเป็นอย่างนั้นเสียเอง
  74. สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง หมายถึง คนเราแม้จะมีความรู้สูงอย่างนักปราชญ์ ก็อาจผิดพลาดได้เหมือนกัน ทุกคนจึงไม่ควรประมาท
  75. เสน่ห์ปลายจวัก ผัวรักจนตาย หมายถึง ฝีมือในการปรุงอาหารถ้าทำให้ถูกปากสามีได้ ย่อมผูกใจสามีให้รักไปจนตาย
  76. หญิงสามผัว ชายสามโบสถ์ อย่าได้คบ หมายถึง แสดงว่ามีจิตใจรวนเร คบเป็นเพื่อนตายไม่ได้ เพราะเมื่อถึงคราวคับขัน อาจปลีกตัวหนีเอาตัวรอดไปตามลำพังได้
  77. หมาขี้ไม่มีใครยกหาง หมายถึง คนที่ชอบยกย่องตัวเอง
  78. หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว หมายถึง การทำอะไรเพื่อประชดประชัน ไม่ได้ประโยชน์อะไร ผลเสียจะตกแก่ตน ส่วนผลดีจะไปได้แก่คนที่เราประชดให้
  79. ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว หมายถึง ทำทุกข์ให้แก่ผู้ใด เคราะห์กรรมที่ทำกับเขา อาจตกตามมาถึงตัวเองบ้าง
  80. อดเปรี้ยวไว้กินหวาน หมายถึง ให้มีความอดทน อดใจรอผลข้างหน้าที่จะดีกว่า
  81. อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน หมายถึง อย่าหาเรื่องใส่ตัว การพูดหรือทำอะไรก้าวก่ายไปถึงผู้อื่นโดยมิบังควร ย่อมทำให้ตนได้รับความเดือดร้อนโดยไม่จำเป็น
  82. อย่าข่มเขาโคขืนให้กินหญ้า หมายถึง อย่าบังคับขืนใจผู้อื่นให้ทำตามใจตน
  83. อย่าชักน้ำเข้าลึก อย่าชักศึกเข้าบ้าน หมายถึง อย่าทำอะไรที่เป็นเหตุให้อันตรายมาถึงตัว
  84. อย่าชิงสุกก่อนห่าม หมายถึง การกระทำอะไรต้องให้เป็นไปตามจังหวะขั้นตอนของมัน ถ้าทำผิดลำดับอาจเสียหาย
  85. อย่าชี้โพรงให้กระรอก หมายถึง คืออย่าไปสอนผู้รู้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว
  86. อย่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ หมายถึง อย่าทำอะไรที่ต้องเสียทรัพย์โดยไม่ได้ประโยชน์คุ้มกับเงินทองที่ต้องเสียไป
  87. อย่าติเรือทั้งโกลน หมายถึง อย่าเพิ่งติสิ่งที่ยังทำไม่เสร็จหรือยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
  88. อย่าทำตัวเป็นกิ้งก่าได้ทอง หมายถึง อย่าเย่อหยิ่งจองหองเพราะเพียงได้ดีหรือมีทรัพย์ขึ้นมาเพียงเล็กน้อย
  89. อย่าทำเป็นหมาเห่าใบตองแห้ง หมายถึง อย่าทำพูดอวดเก่ง หรือเก่งแต่ปาก
  90. อย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ หมายถึง อย่ารื้อเอาเรื่องเก่า ๆ ที่ล่วงเลยไปแล้วขึ้นมาพูดให้สะเทือนใจกัน
  91. อย่าละเลงขนมเบื้องด้วยปาก หมายถึง อย่าเป็นคนดีแต่พูด คือพูดได้ แต่ทำไม่ได้
  92. อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง หมายถึง อย่าวางใจหรือไว้วางใจใครคนอื่นง่ายเกินไป จะเป็นเราที่เดือดร้อนในภายหลังได้
  93. อย่าสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ หมายถึง อย่าไปสอนผู้รู้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว
  94. อย่าสอนหนังสือสังฆราช หมายถึง อย่าไปสอนผู้รู้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว
  95. อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า หมายถึง อย่าใช้อำนาจบังคับอย่างหักโหมรุนแรง เพื่อให้ผู้อื่นทำตามความประสงค์ของตน เพราะนอกจากจะไม่สำเร็จแล้ว ตัวเองก็อาจเดือดร้อน
  96. อย่าเอาจมูกคนอื่นหายใจ หมายถึง ต้องรู้จักช่วยตัวเอง อย่าคิดแต่จะพึงพาอาศัยคนอื่นเสมอไป ถ้าเราทำอะไรได้เองก็สะดวก แต่ถ้าต้องคอยอาศัยคนอื่นเขาร่ำไป ย่อมไม่ได้รับความสะดวก
  97. อย่าเอาทองไปลู่กระเบื้อง หมายถึง อย่าลดตัวลงไปสู้กับคนชั่วต่ำ มีแต่เสียศักดิ์ศรี เพราะไม่คู่ควรกัน
  98. อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ หมายถึง อย่าลดตัวลงไปสู้กับคนชั่วต่ำ มีแต่จะเสียศักดิ์ศรี เพราะไม่คู่ควรกัน
  99. อย่าเอามะพร้าวห้าวไปขายสวน หมายถึง อย่าเอาสิ่งของหรืออะไรก็ตามแสดงต่อผู้ที่มีความรู้ความชำนาญในสิ่งนั้นเป็นที่ลือชาปรากฏอยู่แล้ว เพราะจะทำให้ดูเหมือนว่าตนเป็นคนโง่เขลา เบาปัญญา หรือเซ่อเซอะอะไรทำนองนั้น
  100. อย่าเอาลูกเขามาเลี้ยง อย่าเอาเมี่ยงเขามาอม หมายถึง อย่าเอาของคนอื่นมาชื่นชมยินดี

ความหมายและคำอธิบายแบบเข้าใจง่าย

🔍 วิธีการอธิบายความหมาย

  • ความหมายตรง: อธิบายความหมายโดยตรงของสุภาษิต
  • ความหมายเปรียบเทียบ: การเปรียบเทียบกับสิ่งที่พบในชีวิตประจำวัน
  • ที่มาทางประวัติ: เล่าที่มาและเหตุผลของสุภาษิต

📝 โครงสร้างการอธิบาย

  1. สุภาษิต: "กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา"
  2. ความหมายตรง: ได้รับความเมตตาแต่ตอบแทนด้วยความชั่ว
  3. ความหมายเปรียบเทียบ: เหมือนการอยู่บ้านคนอื่นแล้วไม่รู้จักรักษาความสะอาด
  4. ที่มา: มาจากพฤติกรรมสัตว์เลี้ยงที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง

ตัวอย่างการใช้ในชีวิตประจำวัน

🎯 สถานการณ์ที่ใช้บ่อย

1. การทำงาน

สุภาษิต: "ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม"

  • การประชุมงาน: "เรื่องนี้สำคัญ เราควรค่อย ๆ พิจารณา ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม ดีกว่ารีบทำแล้วผิดพลาด"
  • การสอนงาน: "ไม่ต้องรีบร้อน ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม ค่อย ๆ เรียนรู้ไปนะ"

2. ความสัมพันธ์

สุภาษิต: "น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า"

  • การทำงานร่วมกัน: "เราต้องช่วยเหลือกัน น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า จึงจะประสบความสำเร็จ"
  • การอยู่ร่วมกันในสังคม: "ทุกคนต้องพึ่งพาอาศัยกัน เหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า"

เทคนิคการจำแบบไม่มีลืม

1. 🎵 เทคนิคการจำด้วยเสียง

  • จับคู่คำคล้องจอง
  • แต่งเป็นเพลงสั้น ๆ
  • สร้างจังหวะการท่อง

2. 🖼️ เทคนิคการจำด้วยภาพ

  • วาดภาพประกอบง่าย ๆ
  • สร้างการ์ตูนล้อเลียน
  • ทำแผนผังความคิด

3. 🎭 เทคนิคการจำด้วยเรื่องราว

  • เชื่อมโยงกับประสบการณ์ส่วนตัว
  • แต่งเรื่องสั้นจากสุภาษิต
  • สร้างสถานการณ์จำลอง

💡 เคล็ดลับการฝึกฝน

  1. ทบทวนสม่ำเสมอ ทุกวันละ 2-3 สำนวน
  2. ใช้ในการสนทนาจริง
  3. สร้างบัตรคำหรือโน้ตย่อ
  4. แบ่งปันความรู้กับผู้อื่น

รวบรวมสุภาษิตไทยมาให้ถึง 200 คำ ทั้งที่คุ้นหูและหายาก แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาบรรพบุรุษที่ถ่ายทอดข้อคิดผ่านถ้อยคำกระชับ คมคาย จนได้รับการบรรจุในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ทีมงาน Wordy Guru หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่าน ในการนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน หากท่านมีสำนวนสุภาษิตเพิ่มเติม สามารถแบ่งปันได้ในช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่าง

ชอบเนื้อหาชุดนี้ กดให้คะแนน 5 ดาวกับเราได้เลยจ้า
จำนวนผู้ให้คะแนน: 5   คะแนนเฉลี่ย: 4.2
Wordy Guru Team

เกี่ยวกับผู้เขียน: Wordy Guru Team

ทีม Wordy Guru คือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยที่ทุ่มเทในการให้ข้อมูลที่ครอบคลุมและถูกต้องเกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาไทย ทีมของเรามีนักภาษาศาสตร์ และบุคลากรทางการศึกษาที่มีประสบการณ์มายาวนาน