พุทธสุภาษิต หมวด ส

พุทธสุภาษิต หมวด ส ตามที่เคยรู้จัก พุทธสุภาษิต มีอยู่หลายคำ จะมีคำไหนที่เรารู้จักไหมนะ

รวมพุทธสุภาษิต หมวด ส

พุทธสุภาษิต หมวด ส ตามที่เคยรู้จัก พุทธสุภาษิต มีอยู่หลายคำ จะมีคำไหนที่เรารู้จักไหมนะ

  1. สตรี เป็นสูงสุดแห่งสิ่งของทั้งหลาย
  2. สตรีเป็นมลทินของพรหมจรรย์
  3. สติ คือความตื่นในโลก
  4. สติ เป็นธรรมเครื่องตื่นอยู่ในโลก
  5. สติกำหนดลมหายใจเข้าออก อันผู้ประเสริฐอบรมบริบูรณ์ดีแล้ว, ทั้งกายทั้งจิตของผู้นั้นก็ไม่หวั่นไหว
  6. สติกำหนดลมหายใจเข้าออก อันผู้ใดไม่อบรมให้บริบูรณ์, ทั้งกายทั้งจิตของผู้นั้นก็หวั่นไหว
  7. สติจำเป็นในที่ทั้งปวง
  8. สถานที่ที่ได้ชื่อว่าไม่มีคนตาย ไม่มีในโลก
  9. สมณพราหมณ์ มีความอดทนเป็นกำลัง
  10. สมณพราหมณ์บางเหล่ากล่าวธรรมของตนว่าบริบูรณ์, แต่กล่าวธรรมของผู้อื่นว่าเลว (บกพร่อง), เขาย่อมทะเลาะวิวาทกัน แม้ด้วยเหตุนี้ เพราะต่างก็กล่าวข้อสมมุติของตน ๆ ว่าเป็นจริง
  11. สมณะ พึงตั้งอยู่ในภาวะแห่งสมณะ
  12. สมณะ พึงเป็นสมณะที่ดี
  13. สมณะภายนอกไม่มี, สังขารเที่ยงไม่มี, ความหวั่นไหวของพระพุทธเจ้าทั้งหลายไม่มี, เหมือนรอยเท้าในอากาศ
  14. สมณะในศาสนานี้ ไม่เป็นข้าศึกในโลก
  15. สมาคมกับคนชั่ว ไม่ดีเลย
  16. สมาคมกับคนพาลย่อมนำทุกข์มาให้
  17. สมาคมกับสัตบุรุษย่อมนำสุขมาให้
  18. สรรพวิทยา ควรเรียนรู้ให้หมด
  19. สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนก้าวเดินไปสู่ความตาย
  20. สหายเป็นมิตรของคนผู้มีความต้องการเกิดขึ้นบ่อย ๆ , บุญทั้งหลายที่ตนทำเอง บุญนั้นจะเป็นมิตรในสัมปรายภพ
  21. สหายเป็นมิตรของคนผู้มีความต้องการเกิดขึ้นเนืองๆ
  22. สักการะ ย่อมฆ่าคนชั่วเสีย
  23. สักการะฆ่าคนชั่วได้
  24. สักวันหนึ่ง ก็จะพรากจากกันไป
  25. สักวันหนึ่ง ความรู้ที่เรียนมาจะให้ประโยชน์
  26. สังขาร เป็นทุกข์อย่างยิ่ง
  27. สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยงหนอ
  28. สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
  29. สังขารที่ยั่งยืน ไม่มี
  30. สัจจะ ธรรมะ อหิงสะ สัญญมะ และ ทมะ มีอยู่ในผู้ใด อารยชนย่อมคบผู้นั้น นั่นเป็นธรรมอันไม่ตายในโลก
  31. สัจจะ เป็นรสดียิ่งกว่าประดารสทั้งหลาย
  32. สัตบุรุษ ยินดีในการเกื้อกูลสัตว์
  33. สัตบุรุษ ย่อมขจรไปทั่วทุกทิศ
  34. สัตบุรุษ ไม่ปราศรัยเพราะความได้กาม
  35. สัตบุรุษ ไม่มีในชุมนุมใด ชุมนุมนั้นไม่ชื่อว่าสภา
  36. สัตบุรุษ ไม่มีในชุมนุมใด ชุมนุมนั้นไม่ชื่อว่าสภา
  37. สัตบุรุษมีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า
  38. สัตบุรุษยินดีในการเกื้อกูลสัตว์
  39. สัตบุรุษย่อมปรากฎได้ในที่ไกล เหมือนภูเขาหิมพานต์ อสัตบุรุษถึงนั่งอยู่ในที่นี้ก็ไม่ปรากฎ เหมือนกับลูกศรที่ยิงไปกลางคืน
  40. สัตบุรุษย่อมปรากฏในที่ไกล เหมือนภูเขาหิมพานต์
  41. สัตบุรุษสรรเสริญปัญญาแน่แท้ คนทั้งหลายชอบทรัพย์สมบัติ จึงใคร่ได้สิริ (ยศ) ก็ความรู้ของท่านผู้รู้ทั้งหลายชั่งไม่ได้ ทรัพย์จึงเกินกว่าปัญญาไปไม่ได้ ไม่ว่ากาลไหน ๆ
  42. สัตบุรุษได้ตั้งมั่นในความสัตย์ที่เป็นอรรถและเป็นธรรม
  43. สัตบุรุษไม่ปราศรัยเพราะใคร่กาม
  44. สัตว์ทั้งปวง จัดทอดทิ้งร่างไว้ในโลก
  45. สัตว์ทั้งปวง ย่อมหวาดหวั่นต่ออาชญา สัตว์ทั้งปวงย่อมกลัวความตาย สัตว์ทั้งปวง ย่อมหวาดหวั่นต่ออาชญา ชีวิตเป็นที่รักของทุกคน เราฉันใด สัตว์เหล่านี้ก็ฉันนั้น สัตว์เหล่านี้ฉันใด เราก็ฉันนั้น นึกถึงเขา เอาตัวเราเข้าเทียบแล้ว ไม่ควรเข่นฆ่า ไม่ควรให้สังหารกัน
  46. สัตว์ทั้งปวง หวาดต่ออาญา ล้วนกลัวต่อความตาย ควรทำตนให้เป็นอุปมาล้าไม่ฆ่าเขาเอง ไม่พึงให้ผู้อื่นฆ่า
  47. สัตว์ทั้งปวงย่อมถูกชราและมรณะพัดพาไป
  48. สัตว์ทั้งหลายย่อมต้องการความสุข ผู้ใดแสวงหาสุขเพื่อตน ไม่เบียดเบียนเขาด้วยอาชญา ผู้นั้นละไปแล้ว ย่อมได้สุข
  49. สัตว์ทั้งหลายย่อมต้องการความสุข ผู้ใดแสวงหาสุขเพื่อตน เบียดเบียนเขาด้วยอาชญา ผู้นั้นละไปแล้ว ย่อมไม่ได้สุข
  50. สัตว์โลก ถูกชราปิดล้อม
  51. สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม
  52. สัตว์โลกถูกมฤตยูขจัดแล้ว ถูกชราปิดล้อมไว้ ถูกลูกศรคือตัณหาเสียบแล้ว ถูกอิจฉาคุกรุ่นแล้วทุกเมื่อ
  53. สัตว์โลกถูกมฤตยูห้ำหั่น
  54. สัตว์โลกถูกมฤตยูห้ำหั่น ถูกชราปิดล้อม
  55. สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
  56. สัตว์โลกหมกมุ่นอยู่ในอารมณ์ รูป เสียง กลิ่น รส ผัสสะ และ ธรรมารมณ์นั้น ล้วนเป็นโลกามิสอันร้ายกาจ
  57. สาธุชนย่อมละบาปกรรมด้วยตปะ (ตบะ)
  58. สาธุชนย่อมหลุดพ้นเพราะไม่ยึดมั่นถือมั่น
  59. สามัคคีของหมู่ทำให้เกิดสุข
  60. สามีเป็นเครื่องปรากฎของสตรี
  61. สายเห็นกันอยู่ รุ่งเช้าอีกวันก็ตาย
  62. สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
  63. สิ่งที่ควรศึกษา ก็พึงศึกษาเถิด
  64. สิ่งที่ทำแล้ว ทำคืนไม่ได้
  65. สิ่งที่ปัจจัยปรุงแต่งขึ้น ย่อมเป็นไปตามปัจจัย
  66. สิ่งที่รักอื่นเสมอด้วยตนไม่มี ทรัพย์อื่นเสมอด้วยข้าวเปลือกไม่มี แสงสว่างอื่นเสมอด้วยปัญญาไม่มี ฝนแลเป็นสระที่ใหญ่
  67. สิ่งที่ไม่ได้คิดไว้ ย่อมมีได้, สิ่งที่คิดไว้ ก็เสียหายได้, โภคะของสตรีหรือบุรุษ ที่สำเร็จได้ด้วยนึกเอาไม่มีเลย
  68. สิ่งมีชีวิตทั้งปวง ย่อมกลัวโทษและกลัวความตาย จงทำตนเป็นอุปมา แล้วไม่พึงฆ่าหรือใช้ให้ผู้อื่นฆ่า
  69. สิ่งเดียวกันนั่นแหละดีสำหรับคนหนึ่ง แต่เสียสำหรับอีกคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นสิ่งใด ๆ มิใช่ว่าจะดีไปทั้งหมด และ ก็มิใช่จะเสียไปทั้งหมด
  70. สิ่งใดที่เข้าไปยึดถืออยู่จะพึงหาโทษมิได้ สิ่งนั้นไม่มีในโลก
  71. สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
  72. สิ่งใดเป็นหน้าที่ กลับทอดทิ้งเสีย ไพล่ไปทำสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่ คนเหล่านั้นมัวประมาทอยู่ ความหมักหมมภายในตัวเขา ก็พอกพูนยิ่งขึ้น
  73. สิ่งใดไม่ผิด พึงถือเอาสิ่งนั้น
  74. สุกรทั้งหลายพร้อมเพรียงกันยังฆ่าเสือโคร่งได้ เพราะใจรวมเป็นอันเดียว
  75. สุขอื่นนอกจากความสงบไม่มี
  76. สุขไม่เป็นผลอันคนทำชั่วจะได้ง่ายเลย
  77. ส่วนผู้ใด ถึงจะตกแต่งกาย สวมใส่อาภรณ์ แต่หากประพฤติชอบ เป็นผู้สงบ ฝึกอบรมตนแน่วแน่ เป็นผู้ประพฤติธรรมอันประเสริฐ เลิกละการเบียดเบียนปวงสัตว์ทั้งหมดแล้ว ผู้นั้นแล จะเรียกว่าเป็นพราหมณ์ เป็นสมณะ หรือ เป็นภิกษุ ก็ได้ทั้งสิ้น
  78. ส่วนผู้ใดเป็นสหายในเมื่อเกิดเรื่องต้องการ ผู้นั้นแล คือเพื่อนแท้
  79. เสนาแม้หมู่ใหญ่ พร้อมด้วยพระราชา รบอยู่ ไม่พึงได้ประโยชน์ที่สัตบุรุษผู้มีขันติพึงได้, เพราะว่าเวรทั้งหลายของผู้มีขันติเป็นกำลัง ย่อมสงบระงับ
  80. แสงสว่างเสมอด้วยปัญญา นั้นไม่มี
  81. โสดาปัตติผลประเสริฐกว่าความเป็นใหญ่ในโลกทั้งปวง
  82. โสรัจจะ และ อวิหิงสานั้น เป็นช้างเท้าหลัง สติ และ สัมปชัญญะนั้น เป็นช้างเท้าหน้า

 แสดงความคิดเห็น