พุทธสุภาษิต หมวด ค

พุทธสุภาษิต หมวด ค ตามที่เคยรู้จัก พุทธสุภาษิต มีอยู่หลายคำ จะมีคำไหนที่เรารู้จักไหมนะ

รวมพุทธสุภาษิต หมวด ค

พุทธสุภาษิต หมวด ค ตามที่เคยรู้จัก พุทธสุภาษิต มีอยู่หลายคำ จะมีคำไหนที่เรารู้จักไหมนะ

  1. คนกล่าววาจาชั่วย่อมเดือดร้อน
  2. คนขยัน พึงไม่ให้ประโยชน์ที่มาถึงแล้วผ่านไปโดยเปล่า
  3. คนขยัน ย่อมหาทรัพย์ได้
  4. คนขยัน ย่อมหาทรัพย์ได้
  5. คนขยัน ได้ความสงบใจ
  6. คนขยันทั้งคืนทั้งวัน จักไม่ซึมเซา เรียกว่าแต่ละวันมีแต่นำโชค
  7. คนควรให้ของที่ควรให้
  8. คนคุ้นเคย ไว้ใจกันได้ เป็นญาติอย่างยิ่ง
  9. คนจะชื่อว่าเป็นผู้ใหญ่ เพียงเพราะมีผมหงอกก็หาไม่ ถึงวัยของเขาจะหง่อม ก็เรียกว่าแก่เปล่า
  10. คนจะประเสริฐ ก็เพราะการกระทำ และ ความประพฤติ
  11. คนจะมีชีวิตอยู่ได้ก็เพียงร้อยปี หรือจะเกินก็เพียงเล็กน้อย
  12. คนจำพวกที่งามแต่ภายนอก ภายในไม่สะอาด มีบริวารกำบังตัวไว้ ก็ยังแสดงบทบาทอยู่ในโลก
  13. คนฉลาด ทำจิตของตนให้ซื่อตรง
  14. คนฉลาด พลอยยินดีการให้ทาน
  15. คนฉลาด พึงรู้จักกาลอันสมควร กำหนดเอาคนที่มีความคิด ที่ร่วมใจกันได้แล้ว จึงบอกทุกข์ร้อน โดยกล่าววาจาสละสลวย ได้ถ้อยได้ความ
  16. คนฉลาด ย่อมละบาป
  17. คนฉลาดกล่าวว่า ปัญญาประเสริฐ เหมือนพระจันทร์ ประเสริฐกว่าดาวทั้งหลาย แม้ศีลสิริและธรรมของสัตบุรุษย่อมไปตามผู้มีปัญญา
  18. คนฉลาดกล่าวว่า ปัญญาแลประเสริฐสูงสุด
  19. คนฉลาดไม่ถูกเรื่อง ถึงจะพยายามทำประโยชน์ ก็ไม่สัมฤทธิ์ผลให้เกิดสุข
  20. คนชั่ว ย่อมเดือดร้อนเพราะกรรมชั่วของตน
  21. คนชั่วฆ่าตัวเองก่อน ภายหลังจึงฆ่าคนอื่น
  22. คนซื่อตรง ไม่พูดคลาดความจริง
  23. คนดี ชอบช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น
  24. คนดี บำเพ็ญประโยชน์แก่ปวงชน
  25. คนดีจัดการโภคทรัพย์ ทำประโยชน์แก่คนจำนวนมาก
  26. คนถึงคราวตาย หมู่ญาติก็ช่วยไม่ได้
  27. คนทรามปัญญาได้ยศแล้ว ย่อมประพฤติแต่การอันไม่เกิดคุณค่าแก่ตน ปฏิบัติแต่ในทางที่เบียดเบียน ทั้งตน และ คนอื่น
  28. คนทอดทิ้งกิจที่ควรทำ ไปทำกิจที่ไม่ควรทำ เมื่อเขาถือตัวมัวประมาท อาสวะย่อมเจริญ
  29. คนทั้งหลาย อันถูกอวิชชาหุ้มห่อไว้
  30. คนทำกรรมใดด้วยทาน ด้วยความประพฤติสม่ำเสมอ ด้วยความสำรวม และ ด้วยการฝึกตน ย่อมมีความสุข เพราะกรรมนั้นย่อมไม่ตามเผาผลาญในภายหลัง
  31. คนทำกรรมใดไว้ ย่อมเห็นกรรมนั้นในตนเอง
  32. คนที่ขยันในหน้าที่ ไม่ประมาท เอาใจใส่สอดส่อง ตรวจตรา จัดการงานให้เรียบร้อย เป็นอันดี จึงควรเข้ารับราชการ
  33. คนที่ถูกนินทาอย่างเดียว หรือ ได้รับการสรรเสริญอย่างเดียว ไม่เคยมีมา แล้วจักไม่มีต่อไป ถึงในขณะนี้ก็ไม่มี
  34. คนที่ทำดีแต่ภายนอก ภายในมักไม่บริสุทธิ์
  35. คนที่นึกถึงพระนิพพาน พึงครอบงำ ความหลับ ความเกียจคร้าน ความท้อแท้, ไม่พึงอยู่ด้วยความประมาท ไม่พึงตั้งอยู่ในความทะนงตัว
  36. คนที่ผลัดวันประกันพรุ่งนี้ ย่อมเสื่อม ยิ่งผลัดวันมะรืนนี้ ก็ยิ่งเสื่อม
  37. คนที่พากเพียรไม่หยุด เทวดาก็กีดกันไม่ได้
  38. คนที่รักใคร่ ตายจากไปแล้ว ย่อมไม่ได้พบเห็นอีกเหมือนคนตื่นขึ้นไม่ได้เห็นสิ่งที่ได้พบในฝัน
  39. คนที่ร้องไห้ถึงคนตาย เขาก็จะต้องตายด้วย
  40. คนที่สมบูรณ์ด้วยความรู้และความประพฤติ เป็นผู้ประเสริฐสุดทั้งในหมู่มนุษย์และเทวดา
  41. คนที่สละความเศร้าโศกไม่ได้ มัวทอดถอนถึงคนที่จากไปแล้ว ตกอยู่ในอำนาจของความโศก ย่อมประสบความทุกข์หนักยิ่งขึ้น
  42. คนที่อิ่มด้วยปัญญา ตัณหาจะครอบงำเอาไว้ในอำนาจไม่ได้
  43. คนที่เป็นใหญ่ จะต้องใคร่ครวญให้ดีก่อน จึงลงโทษ
  44. คนที่เห็นแต่โทษผู้อื่น คอยแต่เพ่งโทษนั้น อาสวะก็เพิ่มพูน เขายังไกลจากความสิ้นอาสวะ
  45. คนที่ไม่รู้จักประโยชน์ตนว่า อะไรควรทำวันนี้ อะไรควรพรุ่งนี้ ใครตักเตือนก็โกรธ เย่อหยิ่ง ถือดีว่า ฉันเก่ง ฉันดี คนอย่างนี้ เป็นที่ชอบใจของกาฬกิณี
  46. คนทุกคนต้องตาย
  47. คนนั่งนิ่ง เขาก็นินทา คนพูดมาก เขาก็นินทา แม้แต่คนพูดพอประมาณ เขาก็นินทา คนไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก
  48. คนบางจำพวกเหล่าใดไม่สำรวมในกาม ยังไม่ปราศจากราคะ เป็นผู้บริโภคกามในโลกนี้, คนเหล่านั้นถูกตัณหาครอบงำ ลอยไปตามกระแส (ตัณหา) ต้องเป็นผู้เข้าถึงชาติชราร่ำไป
  49. คนประมาท ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลนาน
  50. คนประมาท เปรียบเสมือนคนตายแล้ว
  51. คนประมาท เสมือนคนตายแล้ว
  52. คนผลัดวันประกันพรุ่ง มีแต่จะเกิดความเสื่อม
  53. คนผู้ตื่นขึ้นแล้ว ย่อมไม่เห็นอารมณ์ อันประจวบด้วยความฝันฉันใด คนผู้อยู่ ย่อมไม่เห็นชน อันตนรักทำกาละล่วงไปแล้วฉันนั้น
  54. คนผู้ทุศีลย่อมได้รับความติเตียน และ ความเสียชื่อเสียง ส่วนผู้มีศีลธรรม ได้รับชื่อเสียง และ ความยกย่องสรรเสริญทุกเมื่อ
  55. คนผู้มีสติ มีความเจริญทุกเมื่อ
  56. คนผู้สดับน้อยนี้ ย่อมแก่ไป เหมือนวัวแก่ อ้วนแต่เนื้อ แต่ปัญญาไม่เจริญ
  57. คนพาล คบเป็นเพื่อนไม่ได้
  58. คนพาล ถึงอยู่ใกล้บัณฑิต จนตลอดชีวิต ก็ไม่รู้แจ้งธรรม เสมือนทัพพี ที่ไม่รู้รสแกง
  59. คนพาล เป็นผู้นำไม่ได้
  60. คนพาลทรามปัญญา ย่อมดำเนินชีวิตโดยมีตนเองนั้นแหละเป็นศัตรู
  61. คนพาลที่ยังไม่ถูกผูกมัด แต่พอพูดในเรื่องใด ก็ถูกผูกมัดในเรื่องนั้น
  62. คนพาลเท่านั้น ย่อมไม่สรรเสริญทาน
  63. คนพูดเท็จ จะไม่พึงทำบาป ย่อมไม่มี
  64. คนพูดเท็จ ล่วงสัตยธรรมเสียอย่างหนึ่ง ไม่คำนึงถึงโลกหน้า จะไม่พึงทำบาปเป็นอันไม่มี
  65. คนพูดไม่จริง ย่อมเข้าถึงนรก
  66. คนพ้นทุกข์ได้เพราะความเพียร
  67. คนมักทำบาปเพราะความหลง
  68. คนมักโกรธ ย่อมมีผิวพรรณเศร้าหมอง
  69. คนมักโกรธ ย่อมอยู่เป็นทุกข์
  70. คนมักโกรธถือเอาประโยชน์แล้ว กลับประพฤติไม่เป็นประโยชน์
  71. คนมักโกรธย่อมมีผิวพรรณไม่งาม
  72. คนมิได้เป็นโจรเพราะคำของคนอื่น มิได้เป็นมุนีเพราะคำของคนอื่น
  73. คนมีกิจธุระ ตั้งใจทำการงานให้เหมาะเจาะ ย่อมหาทรัพย์ได้
  74. คนมีความชั่วย่อมเดือนร้อน เพราะกรรมของตน
  75. คนมีตัณหาเป็นทุกข์บ่อยและนาน
  76. คนมีตัณหาเป็นเพื่อน ท่องเที่ยวอยู่ช้านาน ไม่ล่วงพ้นสงสารที่กลับกลอกไปได้
  77. คนมีปัญญา ถึงสิ้นทรัพย์ ก็ยังเป็นอยู่ได้
  78. คนมีปัญญา ถึงเผชิญอยู่กับความทุกข์ ก็ไม่ยอมสิ้นหวังที่จะได้ประสบความสุข
  79. คนมีปัญญา ถึงแม้ตกทุกข์ ก็ยังหาสุขพบ
  80. คนมีปัญญา ถึงไร้ทรัพย์ ก็ยังดำรงอยู่ได้
  81. คนมีปัญญา ประกอบด้วยความรู้ ฉลาดในวิธีจัดงาน รู้จักกาล รู้จักสมัย จึงควรเข้ารับราชการ
  82. คนมีปัญญา พึงสร้างเกาะที่น้ำหลากมาให้ท่วมไม่ได้ ด้วยความหมั่น ความไม่ประมาท ความสำรวม และความข่มใจ
  83. คนมีปัญญา ย่อมแนะนำในทางที่ควรแนะนำ
  84. คนมีปัญญา ย่อมไม่ประกอบในทางอันไม่ใช่ธุระ
  85. คนมีปัญญา เมื่อถึงคราวตกทุกข์ ก็ยังหาสุขได้
  86. คนมีปัญญา แม้มีปัญหา และถูกผูกมัดอยู่ พอพูดในเรื่องใดก็หลุดได้ในเรื่องนั้น
  87. คนมีปัญญาดีไม่ประมาทในเมื่อผู้อื่นประมาท มักตื่นในเมื่อผู้อื่นหลับ ย่อมละทิ้งผู้ประมาท (คนโง่) เหมือนม้าฝีเท้าเร็ว ทิ้งม้าไม่มีกำลังไปฉะนั้น
  88. คนมีปัญญาทราม ย่อมทำความประทุษร้าย
  89. คนมีปัญญาทราม ย่อมประกอบการอันไม่ใช่ธุระ
  90. คนมีปัญญาทราม ย่อมประกอบแต่ความประมาท
  91. คนมีปัญญาทราม ย่อมพร่าประโยชน์เสีย
  92. คนมีปัญญาทราม ย่อมแนะนำในทางที่ไม่ควรแนะนำ
  93. คนมีปัญญาทราม ได้ยศแล้ว ย่อมประพฤติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ตน ย่อมปฏิบัติ เพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่น
    คำบาลี ยสํ ลทฺธาน ทุมฺเมโธ อนตฺถํ จรติ อตฺตโน อตฺตโน จ ปเรสญฺเจ หึสาย ปฏิปชฺชติ
  94. คนมีปัญญาทำจิตที่ดิ้นรน กวัดแกว่ง รักษายาก ห้ามยาก ให้ตรงได้ เหมือนช่างศร ทำลูกศรให้ตรงได้ฉะนั้น
  95. คนมีปัญญาประเสริฐกว่า คนโง่ถึงจะมียศก็หาประเสริฐไม่
  96. คนมีปัญญาประเสริฐกว่า คนโง่ที่มียศ
  97. คนมีปัญญาย่อมงอกงาม ดังพืชในนาที่งอกงามด้วยน้ำฝน
  98. คนมีปัญญาอยู่ครองเรือน ก็เป็นประโยชน์แก่คนจำนวนมาก
  99. คนมีสติ ย่อมดีขึ้นทุกวัน
  100. คนมีสติ ย่อมได้รับความสุข

 แสดงความคิดเห็น