พุทธสุภาษิต เกี่ยวกับ หมวดพิเศษสำหรับบุคคลทั่วไป

พุทธสุภาษิต เกี่ยวกับ หมวดพิเศษสำหรับบุคคลทั่วไป ตามที่เคยรู้จัก พุทธสุภาษิต มีอยู่หลายคำ จะมีคำไหนที่เรารู้จักไหมนะ

รวมพุทธสุภาษิต เกี่ยวกับ หมวดพิเศษสำหรับบุคคลทั่วไป

พุทธสุภาษิต เกี่ยวกับ หมวดพิเศษสำหรับบุคคลทั่วไป ตามที่เคยรู้จัก พุทธสุภาษิต มีอยู่หลายคำ จะมีคำไหนที่เรารู้จักไหมนะ

  1. กามคุณ 5 ในโลก มีใจเป็นที่ 6 อันท่านชี้แจงไว้แล้ว, บุคคลคลายความพอใจในกามคุณนี้แล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ได้อย่างนี้
  2. กามทั้งหลายมีความยินดีน้อย มีทุกข์มาก ทุกข์อันยิ่งกว่ากามไม่มี ผู้ใดส้องเสพกาม ผู้นั้นย่อมเข้าถึงนรก
  3. การเห็นพระพุทธเจ้าเนือง ๆ เป็นการหาได้ยาก
  4. การได้ฟังธรรมจากสัตบุรุษ เป็นการยาก
  5. การไม่เห็นสิ่งที่รักเป็นทุกข์ และการเห็นสิ่งที่ไม่รักก็เป็นทุกข์ เหตุนั้น จึงไม่ควรทำอะไรให้เป็นที่รัก เพราะความพรากจากสิ่งที่รัก เป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย
  6. กาลเวลา ย่อมกินสรรพสัตว์พร้อมทั้งตัวมันเอง
  7. กำลังใจ พึงรู้ได้ในคราวมีอันตราย
  8. ขณะเวลา อย่าล่วงท่านทั้งหลายไปเสีย
  9. ขึ้นชื่อว่าศิลปะ แม้เช่นใดเช่นหนึ่ง ก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้
  10. คนทำกรรมใดด้วยทาน ด้วยความประพฤติสม่ำเสมอ ด้วยความสำรวม และ ด้วยการฝึกตน ย่อมมีความสุข เพราะกรรมนั้นย่อมไม่ตามเผาผลาญในภายหลัง
  11. คนรู้จักขนบธรรมเนียม ย่อมยำเกรงผู้เฒ่าผู้แก่ ในชาตินี้ก็มีผู้สรรเสริญ ชาติหน้าก็ไปดี
  12. คนเขลา มีกำลัง หาทรัพย์อย่างผลุนผลัน ไม่ดี, นายนิรยบาล ย่อมฉุดคนโง่มีปัญญาทราม ผู้คร่ำครวญอยู่ ไปสู่นรกอันร้ายกาจ
  13. คนใด จักทำตามโอวาทที่ผู้รู้แสดงแล้ว คนนั้นจักถึงฝั่งที่สวัสดี เหมือนพ่อค้าถึงฝั่งที่สวัสดีเพราะม้าวลาหก
  14. คนใดมักหลับ มักคุย และไม่ขยัน เกียจคร้าน มีความมุทะลุ ข้อนั้น เป็นเหตุของผู้ฉิบหาย
  15. คนใดเป็นนักเลงหญิง นักเลงสุรา และนักเลงการพนัน ย่อมล้างผลาญทรัพย์ที่ตนได้แล้ว ๆ , ข้อนั้นเป็นเหตุแห่งผู้ฉิบหาย
  16. ควรระแวงภัยที่ควรระแวง พึงระวังภัยที่ยังไม่มาถึง ผู้ฉลาดย่อมมองดูโลกทั้ง 2 เพราะกลัวต่ออนาคต
  17. ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายแห่งคนดี
  18. ความถึงพร้อมแห่งขณะ หาได้ยาก
  19. ความบริสุทธิ์และความไม่บริสุทธิ์ มีเฉพาะตัว
  20. ความประพฤติชั่วเป็นมลทินของหญิง
  21. ความผิดของผู้อื่นเห็นง่าย ฝ่ายของตนเห็นยาก
  22. ความริษยา เป็นเหตุทำโลกให้ฉิบหาย
  23. ความรู้จักประมาณ ยังประโยชน์ให้สำเร็จทุกเมื่อ
  24. ความหมดจดจากกิเลสทั้งปวง เป็นทางดับจากทุกข์
  25. ความหิว เป็นโรคอย่างยิ่ง
  26. ความเกิดขึ้นแห่งท่านผู้รู้ เป็นการยาก
  27. ความเกียจคร้าน เป็นมลทินแห่งผิวพรรณ
  28. ความเป็นอยู่ของสัตว์ เป็นการยาก
  29. ความเป็นไปของคนไร้ศิลปะ ย่อมฝืดเคือง
  30. ความได้เป็นมนุษย์ เป็นการยาก
  31. ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ
  32. ชีวิตคืออายุอันน้อยนี้ ถูกชรานำเข้าไป เมื่อสัตว์ถูกชรานำเข้าไปแล้ว ย่อมไม่มีเครื่องต้านทาน ผู้เล็งเห็นภัยในมรณะนั้น มุ่งความสงบ พึงละโลกามินเสีย
  33. ชื่อว่าที่ลับของผู้ทำความชั่วไม่มีในโลก, คนทั้งหลายเห็นเป็นป่า แต่คนเขลาสำคัญที่นั้นว่าเป็นที่ลับ
  34. ชื่อว่าที่ลับของผู้ทำบาปกรรม ไม่มีในโลก
  35. ต่อหน้าประพฤติเช่นใด ถึงลับหลังก็ให้ประพฤติเช่นนั้น
  36. ถึงให้แผ่นดินทั้งหมด ก็ยังคนอกตัญญูให้จงรักไม่ได้
  37. ถ้าสัตว์พึงรู้อย่างนี้ว่า ชาติภพนี้เป็นทุกข์ สัตว์ก็ไม่ควรฆ่าสัตว์ เพราะผู้ฆ่าสัตว์ย่อมเศร้าโศก
  38. ท่านทั้งหลายจงมีที่พึ่งอยู่เถิด อย่าไม่มีที่พึ่งอยู่เลย
  39. ธงเป็นเครื่องปรากฎของรถ ควันเป็นเครื่องปรากฎของไฟ พระราชาเป็นเครื่องปรากฎของแว้นแคว้น สามีเป็นเครื่องปรากฎของสตรี
  40. บรรดาทางทั้งหลาย ทางที่มีองค์ 8 (มรรค) เป็นทางเกษมให้ถึงอมตธรรม
  41. บุคคลได้สิ่งใด ไม่ยินดีด้วยสิ่งนั้น, ปรารถนาสิ่งใด ดูหมิ่นสิ่งที่ได้แล้วนั้น, เพราะความต้องการไม่มีที่สุด, พวกเราจงทำความนอบน้อมผู้ปราศจากความต้องการเถิด
  42. บุคคลไม่ความเศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ใฝ่หาถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง, ยังชีวิตให้เป็นไปด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า เพราะเหตุนั้น ผิวพรรณย่อมผ่องใส
  43. บุคคลไม่เพลินเวทนา ทั้งภายในทั้งภายนอก มีสติดำเนินอยู่อย่างนี้ วิญญาณย่อมดับ
  44. ประโยชน์ย่อมล่วงเลยคนหนุ่ม ผู้ทอดทิ้งการงาน
  45. ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์เอง ดวงดาวจักทำอะไรได้
  46. ประโยชน์ได้ล่วงเลยคนเขลาผู้มัวถือฤกษ์อยู่, ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์เอง ดวงดาวจักทำอะไรได้
  47. ประโยชน์ได้ล่วงเลยคนโง่ ผู้มัวถือฤกษ์อยู่
  48. ผู้สงบ เว้นบาป ฉลาดพูด ไม่ฟุ้งซ่าน ย่อมขจัดบาปธรรมเสียได้ เหมือนลมกำจัดใบไม้ฉะนั้น
  49. ผู้อื่นพึงให้ผู้อื่นบริสุทธิ์ไม่ได้
  50. ผู้เข้าใจสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ และเห็นสิ่งที่เป็นสาระว่าไม่เป็นสาระ เขามีความดำริผิดเป็นโคจร จึงไม่ประสบสิ่งที่เป็นสาระ
  51. ผู้เป็นบัณฑิต เมื่อเล็งเห็นประโยชน์ตน ไม่พึงลุอำนาจของโลภะ พึงกำจัดใจที่ละโมภเสีย
  52. ผู้เพ่งสันติ พึงละอามิสในโลกเสีย
  53. ผู้เห็นความประมาทเป็นภัย และเห็นควมไม่ประมาทเป็นความปลอดภัยแล้ว พึงเจริญมรรคมีองค์ 8 นี้เป็นพุทธาศาสนี
  54. ผู้ใด ต้องการสุขเพื่อตน ด้วยการก่อทุกข์แก่ผู้อื่น, ผู้นั้นชื่อว่าพัวพันไปด้วยเวร ย่อมไม่พ้นจากเวร
  55. ผู้ใดผูกอาฆาตว่า เขาได้ด่าเรา เขาได้ฆ่าเรา เขาได้ชนะเรา เขาได้ลักของของเรา ดังนี้ เวรของผู้นั้นย่อมไม่ระงับ
  56. ผู้ใดไม่มีกามอยู่ ผู้ใดไม่มีตัณหา และผู้ใดข้ามความสงสัยได้, ผู้นั้นย่อมมีความพ้น ที่ไม่แปรผันเป็นอย่างอื่นอีก
  57. พรตของผู้บริสุทธิ์ มีการงานสะอาด ย่อมถึงพร้อมทุกเมื่อ
  58. พระจันทร์ พระอาทิตย์ สมณพราหมณ์ และ ฝั่งทะเล ต่างก็มีกำลัง, แต่สตรีมีกำลังยิ่งกว่ากำลัง (เหล่านั้น)
  59. พระตถาคตเจ้าย่อมเกิดขึ้น เพื่อประโยชน์แก่คนหมู่มาก คือเพื่อสตรี และ บุรุษผู้ทำตามคำสอน
  60. พระราชาดี ที่ทรงยินดีในธรรม, คนดี ที่มีปัญญา, เพื่อนดีที่ไม่ประทุษรายมิตร, สุข อยู่ที่ไม่ทำบาป
  61. พึงปรารถนาความไม่มีโรค ซึ่งเป็นลาภอย่างยิ่ง
  62. พึงศึกษาความสงบนั้นแล
  63. พึงศึกษาวิเวก ซึ่งเป็นคุณอันสูงสุดของพระอริยะทั้งหลาย, ไม่ถือตัวว่าเป็นผู้ประเสริฐเพราะวิเวกนั้น ผู้นั้นแล ชื่อว่าปฏิบัติใกล้พระนิพพาน
  64. พึงเป็นคนไม่เบียดเบียน (ผู้อื่น) และพึงกล่าวแต่คำสัตย์อย่างนี้ ละไปจากโลกนี้ไปสู่โลกอื่นแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก
  65. พึงเพิ่มพูนความสละออกให้มากไว้
  66. ภาวะของหญิง รู้ได้ยาก
  67. ภิกษุรื่นรมย์ยินดีในธรรม ใคร่ครวญธรรม และระลึกถึงธรรมอยู่เนือง ๆ ย่อมไม่เสื่อมจากพระสัทธรรม
  68. มนต์มีการไม่ท่องบ่น เป็นมลทิน
  69. รูปโฉม พอลวงคนโง่ให้หลงได้ แต่ลวงคนแสวงหาพระนิพพานไม่ได้เลย
  70. ร่างกายของสัตว์ย่อยยับได้ แต่ชื่อและสกุลไม่ย่อยยับ
  71. วัยย่อมผ่านพ้นไปทุกขณะทีเดียว
  72. ศรี เป็นที่อาศัยแห่งโภคทรัพย์
  73. สักการะ ย่อมฆ่าคนชั่วเสีย
  74. สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยงหนอ
  75. สังขารที่ยั่งยืน ไม่มี
  76. สัตบุรุษ ไม่มีในชุมนุมใด ชุมนุมนั้นไม่ชื่อว่าสภา
  77. สัตว์โลกหมกมุ่นอยู่ในอารมณ์ รูป เสียง กลิ่น รส ผัสสะ และ ธรรมารมณ์นั้น ล้วนเป็นโลกามิสอันร้ายกาจ
  78. สิ่งที่ปัจจัยปรุงแต่งขึ้น ย่อมเป็นไปตามปัจจัย
  79. สิ่งที่ไม่ได้คิดไว้ ย่อมมีได้, สิ่งที่คิดไว้ ก็เสียหายได้, โภคะของสตรีหรือบุรุษ ที่สำเร็จได้ด้วยนึกเอาไม่มีเลย
  80. สิ่งใดที่เข้าไปยึดถืออยู่จะพึงหาโทษมิได้ สิ่งนั้นไม่มีในโลก
  81. สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
  82. สิ่งใดไม่ผิด พึงถือเอาสิ่งนั้น
  83. หิริและโอตตัปปะ ย่อมรักษาโลกไว้เป็นอันดี
  84. อัชฌาสัยที่ทนไม่ได้เพราะกรุณา เป็นลักษณะของมหาบุรุษ
  85. อำนาจ เป็นใหญ่ในโลก
  86. เมตตา เป็นเครื่องค้ำจุนโลก
  87. เมื่อพ้นเพราะรู้ชอบ สงบคงที่แล้ว ใจคอของเขาก็สงบ คำพูดและการกระทำก็สงบ
  88. เมื่อมีจิตใจไม่หนักแน่น เห็นคนใจเบา มักประทุษร้ายมิตร ผู้มีความประพฤติกลับกลอกเป็นนิตย์ ย่อมไม่มีความสุข
  89. เมื่อยังไม่ถึง ไม่ควรพูดอวด
  90. เหย้าเรือนมีความไม่หมั่น เป็นมลทิน
  91. แม้มีปัญญารุ่งโรจน์อย่างไฟ เมื่ออยู่ในต่างประเทศ ก็ควรอดทนคำขู่เข็ญแม้ของทาส
  92. โภคทรัพย์ของผู้ครองเรือนดี ย่อมถึงความพอกพูน เหมือนจอมปลวกกำลังก่อขึ้น
  93. โภคทรัพย์ย่อมฆ่าคนมีปัญญาทราม
  94. โลกถูกมฤตยูกำจัด ถูกชราล้อมไว้ไม่มีผู้ต้านทาน ย่อมเดือนร้อยเป็นนิตย์ ดุจคนต้องโทษ ต้องทำตามอาชญาฉะนั้น
  95. ในบรรดาที่ปรึกษา ย่อมต้องการคนไม่พูดพล่าม
  96. ในเมื่อเรื่องราวเกิดขึ้น ย่อมต้องการบัณฑิต
  97. ในเวลาคับขัน ย่อมต้องการคนกล้า
  98. ในเวลามีข้าวน้ำ ย่อมต้องการคนที่รัก
  99. ในโลกนี้ พวกที่ชอบถือตัว ย่อมไม่มีการฝึกตน, คนมีใจไม่มั่นคง ย่อมไม่มีความรู้, ผู้ประมาทแม้อยู่ในป่าคนเดียว ก็ข้ามฝั่งแห่งแดนมฤตยูไม่ได้
  100. ได้ยศแล้ว ไม่ควรเมา

 แสดงความคิดเห็น