ปรัชญาจากพระคัมภีร์ไบเบิล
พระเป็นเจ้าบวกกับเรา เท่ากับเสียงส่วนมาก.
แปลว่าถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา ใครเล่าจะขัดขวางเรา
หมายเหตุ(โรม 8:31ข.)
ปรัชญาจากพระคัมภีร์ไบเบิลที่คล้ายกัน
คนเรามักปรารถนาจะรับใช้พระเป็นเจ้า แต่ในตำแหน่งผู้ถวายคำแนะนำแด่พระองค์ คนเรามักลืมพระเป็นเจ้าทั้งวัน แต่แล้วก็ขอให้พระองค์ ทรงระลึกถึงเขาทั้งคืน จงเป็นห่วงว่าพระเป็นเจ้าทรงคิดอย่างไรกับท่าน มากกว่าการเป็นห่วงว่าคนอื่นเขาจะคิดอย่างไร ท่านสามารถทำอะไรร่วมกับพระเป็นเจ้า ให้สำเร็จได้ภายในหนึ่งชั่วโมง มากกว่าที่ท่านจะทำได้ตลอดชีวิต โดยปราศจากพระองค์ ผู้ที่นำแสงอาทิตย์ เข้ามาในชีวิตของผู้อื่น ย่อมไม่สามารถกั้นแสงนั้น จากชีวิตของตนเองได้ ผู้ที่ไม่ตื่นเต้นกับงานของตน คนเขาเรียกผู้นั้นว่า คนว่างงาน พระเยซูเจ้าคือพระสหาย ผู้ทรงย่างกายเข้ามา เมื่อโลกย้ายออกไป มรดกอันประเสริฐที่บิดามอบให้บุตร ก็คือ ตัวอย่างที่ดี ท่านก็ทราบดีแล้วว่า เราได้กระทำทุกอย่างเพื่อท่าน ดังบิดามารดา พึงกระทำต่อบุตรหลานของตน (1เธสสะโลนิกา 2:11) มโนธรรม คือ เครื่องเตือนภัยซึ่งพระเป็น ทรงติดตั้งให้ไว้กับท่าน จงดีใจเมื่อมันทำให้ ท่านรู้สึกเจ็บ แต่จงระวังเมื่อท่านไม่รู้สึกเจ็บ ลูกหลานของเราเปรียบเสมือนกระจกเงา เขาสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกนึกคิดในชีวิต ของเรานั่นเอง หากความห่วงใยน้อยนิดเกินกว่าที่จะคิด เอามาสวดภาวนา ก็คงจะเป็นเรื่องเล็กน้อย เกินกว่าที่เอามาใส่บ่าแบกหาม เมื่อพระเป็นเจ้าทรงวัดมนุษย์ พระองค์ทรงเอาเทป วัดใจแทนที่จะทรงวัดสมอง
